ประจำเดือนมาไม่ตรงกัน บางเดือนก็ขาดไปเลยต้องทานยาขับเลือดถึงมา ก่อนมามีอาการปวดท้องและสิวขึ้น ปกติไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Sukanya Yafa,

                   หากนับได้ระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนมากกว่า 35 วัน สาเหตุอาจเกิดจาก

                 1. มีภาวะที่รังไข่ทั้ง 2 ข้างมีถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมาก เรียกว่า polycystic ovary syndrome (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิวเยอะ และมีขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป    

               2. โรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮฮร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้ 

              นอกจากนี้อาจเกิดจากมีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอรโมนต่ำก็ได้ หรือเป็นเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ การมองเห็นผิดปกติ มีน้ำนมไหลจากเต้านม เป็นต้น

              ดังนั้นหากมีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนมากกว่า 35 วันในทุกรอบ แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ แต่หากมีเพียงระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ และมีระยะห่างมากกว่า 35 วันในบางรอบเดือน ก็ถือว่าไม่ได้ผิดปกติอะไรค่ะ โดยอาจเกิดอาจมีปัจจัยที่ทำให้ประจำเดือนมาช้ากว่าปกติได้ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ออกกำลังกายหักโหม อดอาหาร มีน้ำหนักลด เป็นต้น

               ส่วนอาการปวดท้องและมีสิวขึ้นก่อนมีประจำเดือน ถือเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนที่สามารถพบได้ หากไม่ได้มีอาการปวดท้องที่รุนแรง ก็ไม่ด้อันตรายแต่อย่างใดค่ะ