ถามแพทย์

  • มีประจำเดือนมาต้นเดือนกับปลายเดือนมา 3-4 เดือนแล้ว ไม่ได้ทานยาคุม เกิดจากอะไร

  • คุณหมอคะพอดีหนูมีประจำเดือนมาเดือนละ2ครั้งคะช่วงต้นเดือนกับปลายเดือนคะเลือดจะมีสีแดงสดบ้างสีแดงเเข็มบ้างแต่ไม่มีอาการอื่นรวมด้วยนะคะแต่ไม่ไดทานยาคุมนะคะเพราะสามีไม่อยู่คะเริ่มมีแบบนี้ได้ประมาณ34เดือนนีแหละคะจะเป็นอะไรไหมคะกลุมจัยมากคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ กรรณิกา สืบสุนทร,

                       หากนับระยะห่างระหว่างรอบเดือนได้มากกว่า 21 วัน (ให้นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา ไปจนถึงวันแรกของประจำเดือนรอบถัดไป) ก็จะถือว่ามีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนที่ปกติดี ไมาจำเป็นต้องทำอะไร แต่หากนับระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนได้น้อยกว่า 21 วัน จะถือว่ามีประจำเดือนมาบ่อยกว่าปกติ โดยเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น 

                       1. จากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาสตรี ยาสมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ

                       2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักมีตกขาวผิดปกติและอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย 

                        3. ความผิดปกติที่มดลูก เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้น 

                        4. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น

                        หากไม่ได้เกิดจากสาเหตุต่างๆ เหล่านี้ อาจเกิดจากการการทำงานของรังไข่ที่ไม่สมบูรณ์ การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ไม่เป็นไปตามปกติ

                         ดังนั้น หากยังมีเลือดประจำเดือนมาบ่อย คือมีระยะห่างที่น้อยกว่า 21 วัน แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ หากตรวจไม่พบโรคต่างๆ แพทย์จะให้ยาปรับฮอร์โมนมาทาน เพื่อให้ประจำเดือนมาเป็นปกติค่ะ