ถามแพทย์

  • หลังจากประจำเดือนหมด 15 วัน มีอาการปวดท้องตรงมดลูก มีตกขาวสีเหลืองขุุ่นกลิ่นเหม็น วันต่อมามีเลือดออก เกิดจากอะไร

  •  Siritana Nontiwal
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ ดิฉันมีเรื่องอยากถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับมดลูก คือดิฉันเปนประจะเดือนพึ่งหายในสิ้นเดือน พอมาถึงกลางเดือนผ่านมา15วัน ดิฉันปวดมดลูกมากและมีน้ำเหลืองขุ่นมีกลิ่นเหม็นออกมาพร้อมอาการปวดมดลูกมาก วันต่อมามีเลือดไหลเหมือนประจำเดือนโดยปกติแช้วดิฉันเป็นประจำเดือนนานสุดแค่3~4วัน แต่คราวนี่มีเลือดได้10วัน ยังไม่หายเลย จะรักษายังไง ไปคลีนิกบอกว่าเป็นตกขาวขั้นที่3และมีเชื้อราแล้วให้รีบรักษาที่โรงบาล อยากรุ้ว่าการรักษาทำไงบ้างค่ะ แล้วอันตรายมากมั้ย

     สวัสดีค่ะ คุณ Siritana Nontiwal

    การตกขาวแบ่งเป็น 2แบบ คือ

    -ตกขาวแบบปกติ: โดยลักษณะสีขาวใส ขาวขุ่นเนื้อหยาบ ไม่มีกลิ่นเหม็น   

    -ส่วนการตกขาวแบบผิดปกติ: ลักษณะสีเขียว เหลือง ตกขาวปนเลือด กลิ่นเหม็น ซึ่งอาการตกขาวที่ผิดปกตินี้ สามารถเกิดได้จาก ช่องคลอดหรือ อาจเกิดจากมดลูกอักเสบค่ะ โดยเชื้อที่ก่อโรค อาจเป็นเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อหนองในแท้ เชื้อหนองในเทียม เป็นต้น 

    จากที่เล่ามา คิดว่าเป็นอาการที่มีการติดเชื้อในในช่องคลอด หรือโพรงมดลูกที่ควรรับการรักษาอย่างเหมาะสมนะคะ

    แนะนำให้รักษาสุขอนามัย โดยหลังจากปัสสาวะให้ทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่าและซับให้แห้ง สวมกางเกงในสะอาดและแห้ง หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ช่วงที่มีตกขาวปริมาณมาก หรือสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม งดการสวนล้างช่องคลอด ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าเป็นหลักนะคะ

    และแนะนำคุณ Siritana Nontiwal ไปพบสูตินารีแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อรับการตรวจรักษาอย่างเหมาะสมนะคะ