ถามแพทย์

  • อายุ 18 ปี รู้สึกเวียนหัวเวลาอยู่นิ่งๆ หน้ามืด เดินแล้วโคลงเคลงเวลาออกกำลังกายบนลู่วิ่ง ตื่นนอนไม่สดชื่น มีสาเหตุจากอะไร

  •  Aitsawa
    สมาชิก

    สวัสดีคับผมชื่อ แดน  อายุ 18 ปี

    มีอาการ มึนหัว เวียนๆ เวลาอยู่นิ่งๆเช่น เวลาทำงานหน้าคอมแล้วต้องพิมพ์

    อะไร จะรู้สึกเวียนๆมึนๆ ตอนเช้าตื่นมารู้สึกไม่สดชื้น จี๊ดจ๊าดที่หัว แขนขา ชาๆ (บ้านไม่หมุน) เป็นมา 9 เดือนแล้วคับ 

    เป็นคนชอบออกกำลังกายมาก ออกสัปดาร์ละ 3-4 วัน วันละ 1 ชม. ทุกเย็น คับ

    ตอนผมขึ้นไปออกกำลังกานบนลู่วิ่งสักระยะ 30 นาทีกว่า พอหยุดเครื่อง

    รู้สึกมึนหัวมากๆ เวียนๆ เดินโครงเครงเลยคับ ทรงตัวไม่อยู่ ต้องพัก 10 นาทีกว่าๆ

    ถึงอาการจะลดลง แล้วเวลาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เรียนวิชาทหารต้องทำอะไรให้รีบๆ

    รู้สึกหน้ามืดด้วยคับ เคยไปหาหมอแล้วคับ

    1.หมอ แรก ตามคลีนิกส์ทั่วไป บอกว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ

    ได้ยามาครับกินแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นเลย

    2. หมอ ที่สอง ไปแล้วบอกอาการหมอบอกให้ออกกำลังกาย ทั่งๆที่ผมออกกำลังกายอยู่แล้ว
    3. ไป หา หมอ หู คอ จมูก หมอบอก การทรงตัวอักเสบ

    หมอให้ยามาราคา 1800 ไปพบแพท 2 ครั้งเสียเงินไป 3600 

    กินแล้วอาการเหมือนเดิมคับไม่ดีขึ้นเลยเสียดายเงินมาก

    4. ไปตรวจเลือดดู หมอบอกปกติทุกอย่าง

    5. ไป หา หมอ หู คอ จมูก อีกครั้ง หมอบอกเป็นเส้นประสาทในหูอักเสบ

    ค่ายา 500 ลองกิน 2 สัปดาร์อาการหนักกว่าเดิม ไม่กินยังจะดีกว่า

    อยากทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรคับ เพราะว่าผมใช้ชีวิตไม่ปกติ ไม่เหมือนคนอื่นเขาเลย
    ทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ได้เลย กลัวว่าพอเปิดเทอมไปเรียนหนังสือแล้วจะไม่รู้เรื่อง

    Aitsawa  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Aitsawa

    อาการรู้สึกเวียนหัว หน้ามืด เดินแล้วโคลงเคลง อาจเกิดจาก ภาวะน้ำในหูที่ไม่เท่ากัน ทำให้มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ บ้านหมุน รักษาด้วยการรับประทานยาแก้เวียนศีรษะ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย ไม่ได้มีอันตราย สาเหตุอื่นๆเช่น ตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด หรือ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน หูชั้นในอักเสบจากการติดเชื้อของหูชั้นกลาง การขาดเลือดไปเลี้ยงสมองบางส่วน การเปลี่ยนท่าทางที่เร็วเกินไป หรือมีเนื้องอกของประสาททรงตัว 

    ซึ่งถ้าเป็นน้ำในหูไม่เท่ากัน มักจะค่อยๆดีขึ้นได้ ด้วยการปรับพฤติกรรมหรือการใช้ยาแก้เวียนศีรษะ หากยังมีอาการเป็นต่อเนื่อง กินยาตามที่แพทย์สั่งมาแล้วไม่ดีขึ้น อาจต้องนึกถึงภาวะอื่นๆเช่นความผิดปกติของประสาทหูชั้นใน การมีภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลัน ที่ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอย่างละเอียดหรือส่งพบแพทย์เฉพาะทางที่เกี่ยวข้องต่อไป

    ในเบื้องต้น การเปลี่ยนท่าทางช้าๆ ถ้ามีอาการให้รีบนั่งพัก รับประทานยาแก้เวียนศีรษะ ดื่มน้ำมากๆ  รับประทานยาแก้เวียนศีรษะได้ หลีกเลี่ยงการขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรไปก่อน