ถามแพทย์

  • ประจำเดือนไม่มา 7 เดือน ไปหาหมอได้ยาปรับฮอร์โมนและยาคุมมาทาน แล้วมีประจำเดือนมา ต่อมามีเพศสัมพันธ์ จะท้องไหม

  •  Piploy
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีหนุอยากสอบถามว่า พอดีหนูประจำเดือนมาไม่ค่อยปกติ ไม่มาประมาณ 7 เดือน แต่ไปพบหมอแล้ว ไม่เป็นอะไร เกิดจากที่ไข่ไม่ค่อยตก หมอเลยให้ยามากินปรับฮอร์โมน หลังกินยาหมดประจำเดือนก็มา แต่มาแค่ 4 วัน ประจำเดือนมาวันที่ 8-11 ม.ค ก็ไปพบหมอตามนัดดูอาการ หมอก็ให้กินยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมนต่อ ยาคุม 21 วัน หลังกินหมด 5 วันก็ประจำเดือนมาประมาณ 4 วัน แล้วหลังจากและจำเดือนหมดไป คือเป็นประจำเดือนวันที่ 4-7 ก.พ แล้วมามีอะไรกันกับแฟนในวันที่ 12-13 ก.พ หลั่งใน วันละครั้ง แต่แฟนไปดื่มเหล้ามาจะมีผลอะไรไหมคะ จะสามารถท้องได้ไหมคะ แล้วอยู่ในช่วงวันไข่ตกหรือเปล่า นับไม่เป็นเลยค่ะ อยากทราบว่าจะมีโอกาสท้องได้ไหม เพราะหนูก็ประจำเดือนมาไม่ปกติ และวันนั้นแฟนก็ดื่มเหล้ามาด้วย อยากมีลูกค่ะ จะท้องไหมคะ?

    สวัสดีค่ะ คุณ piploy,

                       หากประจำเดือนไม่มานาน 7 เดือน แต่ได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจแล้ว พบว่าเกิดจากทำงานของรังไข่ผิดปกติ ไม่มีการตกไข่เกิดขึ้น การรักษา ก็คือการทานยาปรับฮอร์โมนหรือทานยาคุมกำเนิดดังที่แพทย์ให้ทานอยู่ค่ะ

                         ทั้งนี้ หากทานยาคุมกำเนิดจนครบ 21 เม็ด และหลังจากนั้น 5 วัน ได้มีประจำเดือนมา ก็ถือว่าปกติดี แต่เมื่อเว้นระยะไปครบ 7 วันแล้ว หากไม่ได้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ต่อไป ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็จะหมดลง ดังนั้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 12-13 ก.พ. ก็ย่อมมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ส่วนการตกไข่จะเกิดขึ้นในวันใดนั้น ไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากการทำงานของรังไข่ไม่ปกติ

                         อย่างไรก็ตาม หากต้องการมีลูก ก็ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ หากยังคงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ และประจำเดือนยังคงไม่มาอีกเมื่อหยุดทานยาคุมไปแล้ว แนะนำควรไปพบแพทย์เฉพาะทางสูติ-นรีเวชกรรม เพื่อตรวจหาสาเหตุของการมีบุตรยากค่ะ โดยควรพาฝ่ายชายไปตรวจด้วย เพราะสาเหตุอาจเกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ค่ะ ซึ่งหากมีสาเหตุจากฝ่ายหญิงที่ไข่ไม่ค่อยตก ก็ต้องใช้ยากระตุ้นการตกไข่ การทานยาปรับฮอร์โมนจะไม่ได้ช่วยให้ไข่ตกได้ เพียงแค่ทำให้ประจำเดือนมาค่ะ