ถามแพทย์

  • หูตหงอนไก่

  •  mnbvcxz_2543@gmail.com
    สมาชิก
    หมอครับ ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยครับ แต่ทำไมผมถึงมีหูตหงอนไก่ขึ้นบริเวณปลายอวัยวะครับ มันเกิดจากอะไรครับ 😣😣😣

     สวัสดีค่ะ คุณ mnbvcxz_2543@gmail.com,

                        หูดหงอนไก่ เกิดจากการติดเชื้อ human papilloma virus ซึ่งจะติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก และการทำออรัลเซ็กส์ลักษณะคือจะเห็นเป็นติ่งเนื้อนุ่มๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวขรุขระ อาจพบจุดเดียวหรือหลายจุด ในผู้ชายมักพบขึ้นที่รอยต่อระหว่างส่วนหัวและลำขององคชาต ใต้หนังหุ้มปลาย นอกจากนี้อาจพบบริเวณรอบทวารหนักและฝีเย็บได้ และหากได้มีการทำออรัลเซ็กส์ ก็อาจจะพบในช่องปากและลำคอได้ โรคหูดหงอนไก่มักไม่ทำให้อาการ แต่อาจทำให้เกิดอาการคัน แสบ หรือเจ็บได้ขณะมีเพศสัมพันธ์

                        อย่างไรก็ตาม หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน รวมถึงไม่เคยมีการสัมผัสของอวัยวะเพศภายนอกกับผิวหนังของผู้อื่น อาการที่เป็นอยู่อาจไม่ใช่โรคหูดหงอนไก่ โดยอาจเป็น

                        - ติ่งเนื้อธรรมดา (skin tag) เป็นเนื้องอกธรรมดาของผิวหนังที่สามารถพบได้ทั่วตัว ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด

                        - pearly penile papules หรือโรคผื่นนูนพีพีพี ไม่ได้จัดเป็นโรค ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และไม่ใช่โรคติดต่อ เกิดจากหลอดเลือดขององคชาตขยายตัว และมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมาล้อมรอบ ลักษณะเป็นตุ่นนูนผิวเรียบสีเนื้อหรือชมพูอ่อน เรียงกันหลายตุ่มเป็นแถว อยู่บริเวณร่องรอบฐานหัวองคชาต มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน

                        - fordyce spot คือต่อมไขมัน ที่เกิดขึ้นโดยไม่พบร่วมกับกับต่อมขน ไม่จัดเป็นโรค ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และไม่ใช่โรคติดต่อเช่นกัน  ลักษณะคือ เป็นเม็ดหรือตุ่มนูนสีขาว หรือเหลืองอ่อน พบได้ทั้งที่ผิวหนังของถุงอัณฑะหรือองคชาต 

                        - หูดข้าวสุก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส molluscum contagiosum virus ซึ่งติดต่อจากการสัมผัสผิวหนังที่มีรอยโรคโดยตรง มักติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ แต่หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสกันของผิวหนังก็สามารถเกิดการติดเชื้อได้ สามารถพบได้ที่ผิวหนังทั่วตัวและแขนขา รวมถึงที่องคชาต ลักาณะคือเป็นตุ่มนูนสีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก ตรงกลางมีรอยบุ๋ม เมื่อกดหรือบีบให้แตก จะมีเนื้อเละ ๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน แต่ในบางครั้งอาจมีอาการบวมแดงอักเสบร่วมด้วย

                         หากไม่แน่ใจว่าตุ่มที่เป็นอยู่ที่อวัยวะเพศเป็นอะไร ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจค่ะ