ถามแพทย์

  • เป็นหนองใน ไปตรวจกับแพทย์มาแล้วได้ยามา หนองไหลน้อยลง แต่กังวลว่าจะมีโอกาสดื้อยาได้ไหม

  •  ntpw26
    สมาชิก

    สวัสดีครับคุณหมอ

    ผมไปมีความเสื่ยงมา ไม่ได้มีsex แต่มีการออรัล ผมเกิดมีอาการปัสสาวะขัด มีหนองไหลออกจากปลายอวัยวะเพศ 

    เบื้องต้นผมก็ลองหาข้อมูล แล้วไปที่ร้านขายยา เภสัชกรได้จ่ายยาciprofloxacin กับยาอีก2เม็ด ไม่ทราบยาอะไร โดยให้ทาน ciprofloxacin ทีละ5เม็ด 2ครั้ง ตอนเย็นกับตอนเช้า 

    ตอนบ่ายผมเลยไปตรวจที่คลินิคฟ้าสีรุ้งที่ราม เพื่อตรวจโรคอื่น ผลคือยังไม่ติดโรคอื่น เลยมีคำถามครับว่า กินยาแล้วมีโอกาสหายเลยไหม หรือว่าต้องไปฉีดยาซ้ำ 

    ตอนนี้กังวลใจว่าอาการหนองไหลน้อยลง แต่กลัวจะไม่หายขาด เพราะอ่านเจอเรื่องเชื้อดื้อยาครับ 

    วันนี้ไปตรวจที่คลินิค หมอตรวจให้ทั้งhiv ซิฟิลิส ไวรัสตับ ผมติดแค่หนองในครับ 

     

     

     

     

    ntpw26  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ ntpw26

    ในที่นี้น่าจะหมายถึงการเป็นหนองในที่อวัยวะเพศ

    หนองในเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการบริเวณอวัยวะเพศเช่นมีปัสสาวะแสบขัด มีแผลที่อวัยวะเพศได้ การวินิจฉัยมีทั้งการตรวจร่างกายพบรอยโรคที่เข้าได้ มีประวัติเสี่ยง และอาจยืนยันด้วยการตรวจปัสสาวะ  หรือเก็บตัวอย่างจากของเหลวที่ถูกขับออกมาจากปลายอวัยวะเพศไปตรวจ 

    แต่ส่วนใหญ่ถ้ามีอาการท่อปัสสาวะมีหนองไหลชัดเจน ก็น่าจะให้การวินิจฉัยได้ โดยการรักษาของหนองในคือการฉีดยาเข้ากล้าม 1 เข็มที่สถานพยาบาลทันที และแพทย์อาจจะให้ยารักษาหนองในเทียมมากินต่อประมาณ 7-14 วันมาร่วมด้วย

    เชื้อดื้อยานั้นพบได้แต่ไม่มากหากฉีดยาไปแล้วหนองไหลน้อยลงก็น่าจะตอบสนองต่อการรักษา ให้ติดตามอาการประมาณ 72 ชั่วโมงหลังได้ยา ซึ่งอาการควรดีขึ้นชัดเจน หลังจากนั้นถ้ายังมีหนองไหลอยู่ ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อส่งตรวจดูว่ายังมีเชื้อหนองในอยู่หรือไม่ ถ้ามีเชื้อดื้อยาจริง ก็ยังมียาที่สามารถรักษาได้เช่นเพิ่มขนาดยาเดิมหรือเปลี่ยนชนิดยาที่ฉีดค่ะ ในระหว่างนี้ควรงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าโรคจะหายขาด และให้พาคู่นอนไปรักษาด้วยกัน