-
ฉีดยาคุมมา 2-3 ปี ประจำเดือนไม่มา หยุดฉีด 8 เดือน มีเลือดออกมานาน ต่อมากะปริดกะปรอย จะเป็นอะไรไหม
-
Nov 03, 2018 at 11:02 PM
สวัสดีค่ะคุณหมอ คือหนูได้ฉีดยาคุม2-3ปี พอหยุดฉีดประจำเดือนก็ยังไม่มา8เดือน เดือนที่9มีประจำเดือนมาครึ่งเดือนค่ะ แล้วก็หายไปอาทิตย์หนึ่ง แล้วก็กลับมาเป็นอีก พอหายก็มาเป็นแบบกระปิดกะปอยอยู่เรื่อยๆค่ะ มีเลือดแบบจางๆบ้าง เข้มๆบ้าง น้ำตาลบ้าง จะเป็นไรไหมค่ะNov 04, 2018 at 01:25 PM
สวัสดีค่ะ คุณ สอง ยุพารัตน์.
ผลข้างเคียงของยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ที่พบได้บ่อยคือ อาการขาดประจำเดือน ดังนั้น การที่ประจำเดือนไม่มา จึงถือเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด
และเมื่อหยุดฉีดยาคุมกำเนิด รังไข่จะยังไม่กลับมาทำงานได้ทันทีและประจำเดือนอาจจะยังไม่มาเป็นปกติได้ โดยเฉลี่ยแล้ว ประจำเดือนจะมาเป็นปกติที่ประมาณ 4-10 เดือนหลังฉีดเข็มสุดท้าย แต่บางรายอาจใช้เวลานานเป็นปีได้
ดังนั้น หากได้หยุดฉีดยาคุมไปนาน 8 เดือน แล้วต่อมามีประจำเดือนมา โดยมานานเกือบครึ่งเดือน อาจเป็นผลจากการที่ประจำเดือนขาดหายไปนานได้ ซึ่งโดยปกติ ประจำเดือนในรอบต่อๆไป ควรจะมาเป็นปกติ แต่หากไม่ได้มีประจำเดือนมาเป็นปกติ แต่กลับมีเลือดอกกกะปริดกะปรอยแทน อาจเกิดจาก
1. ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เช่น แท้งคุกคาม เป็นต้น หากได้มีเพศสัมพันธ์ ก็อาจโอกาสตั้งครรภ์ได้
2. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ
3. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักปวดท้องน้อยและมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย รวมถึงมีเจ็บท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ มีปัสสาวะผิดปกติ มีไข้
4. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเศร้า เป็นต้น
5. ความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่มักพบในหญิงวัยกลางคนขึ้นไป
6. มีโรคบางอย่าง เช่น ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เกร็ดเลือดต่ำ เป็นต้น
หากมีเพศสัมพันธ์ อาจลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อน หากตรวจไม่พบ แต่ยังคงมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยอยู่เรื่อยๆ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ
-
ถามแพทย์
-
ฉีดยาคุมมา 2-3 ปี ประจำเดือนไม่มา หยุดฉีด 8 เดือน มีเลือดออกมานาน ต่อมากะปริดกะปรอย จะเป็นอะไรไหม