ถามแพทย์

  • โดนแมวกัดมา 3 สัปดาห์ แต่แมวยังอยู่ มีอาการไข้ เจ็บคอ ชา เกร็งกระตุกแขน จะเป็นพิษสุนัขบ้าไหม

  •  vachira jumpol
    สมาชิก
    โดนแมวกัดมา 3 อาทิตย์ เริ่มแรกมีการคันที่รอย มีไข้อ่อนๆ เจ็บคอ แต่ไม่มีอาการเบื่ออาหาร แล้วเริ่มมีอาการชา เกร็งกระตุกแขน เลยไปหาหมอเพื่อฉีดวัคซีน หลังจากฉีดแล้ว มีอาการคันคล้ายตุ่มยุงขึ้นมา ปวดแสบปวดร้อนเกร็งที่แขน ตอนนี้แมวยังอยู่ดีค่ะ แต่มีอาการซึมๆทั้งที่ปกติก็ซึมอยู่แล้ว แบบนี้ถือว่าเป็นพิษสุนัขบ้ามั้ย

    สวัสดีค่ะ คุณ vachira jumpol,

                         หากผ่านมา 3 สัปดาห์หลังจากที่แมวกัด แมวยังคงมีชีวิตอยู่ แสดงว่าแมวไม่ได้เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ดังนั้นคุณก็จะไม่ได้ติดโรคพิษสุนัขบ้ามาจากแมวแต่อย่างใดค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วจึงไม่จำเป็นต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าค่ะ

                        ดังนั้น อาการต่างๆ ที่เป็นอยู่ จึงไม่ได้เกิดจากโรคพิษสุนัขบ้า อย่างไรก็ตาม การถูกแมวกัด อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคอื่น เช่น บาดทะยัก เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้หากไม่เคยฉีดวัคซีนบาดทะยักกระตุ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคบาดทะยักได้ 

                        หากอาการเกร็งแขนเกิดขึ้นมาเองบ่อยๆ แนะนำควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใดค่ะ โดยเฉพาะเกิดจากโรคบาดทะยักหรือไม่ แต่หากไม่ได้มีอาการเกร็งกระตุกที่บริเวณใดอีก มีแค่ไข้ต่ำๆ กับเจ็บคอ อาจเกิดจากการเป็นไข้หวัด หรือคออักเสบก็ได้ แนะนำควรดูแลรักษาตามอาการ เช่น การดื่มน้ำเปล่ามากๆ ไม่ดื่มน้ำเย็น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ทานยาแก้ปวดลดไข้ เช่น พาราเซตามมอล เป็นต้น 

                        สำหรับตุ่มที่ขึ้นมาบริเวณที่ฉีดยา น่าจะเกิดจากปฏิกิริยาเฉพาะที่จากวัคซีนได้ ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ