-
มีอะไรกับผญ2คนพร้อมกัน จะติดโรคไหม
-
Jul 11, 2018 at 02:37 PM
เห็นบางคนมีแฟน2คน ถ้าเกิดว่าเรามีอะไรกันแบบไม่ใส่ถุงยางพร้อมกันทีเดียวเลยแบบชาย1หญิง2 สอดใส่สด แบบนี้สามารถติดโรคได้ไหมครับ หรือว่าถ้าผญหรือผช ทั้ง3คนนี้ไม่มีโรคก็สามารถมีอะไรกันได้
Jul 11, 2018 at 08:26 PM
สวัสดีคะคุณzxcvbnm1
การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันมีโอกาสในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ
โรคทางเพศสัมพันธ์ หรือ การติดเชื้อ Sexual transmitted diseases (STD) ซึ่งการติดเชื้อ เอช ไอ วี ก็จัดอยู่ในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ เราจะมาเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณกังวลก่อนนะค่ะ คือ เรื่องการเชื้อ เอช ไอ วี เชื้อ เอช ไอ วี คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งซึ่งนำไปสู่การเป็นโรคที่เรียกว่าเอดส์ เชื้อนี้รักษาไม่หาย แต่มียาที่ใช้รักษาได้ค่ะ แต่จะไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดได้ค่ะ เพราะเชื้อจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่เรียกว่า ซีดี 4 (CD4 T cell) ทำให้ร่างกายไม่สามารถที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคอื่นๆ ได้ แต่ปัจจุบันนี้มียาต้านไวรัสที่ดีค่ะ สามารถทำให้ระดับของ ซีดี 4 ไม่ลดต่ำลงได้ และทำให้จำนวนไวรัสลดลงได้ค่ะ
ส่วนสิ่งที่คุณต้องทำคือ คุณต้องทราบก่อนว่า คุณควรที่จะได้พบแพทย์เมื่อไหร่เพื่อตรวจว่าคุณมีการติดเชื้อหรือไม่
ก่อนอื่นเราต้องทำการตรวจระยะแรกก่อน ซึ่งเป็นการตรวจ ที่เรียกว่าการตรวจควบคู่ ระหว่าง HIV antibody และ HIV antigen คือการตรวจหาภูมิคุ้มกันและตัวเชื้อควบคู่กัน การตรวจนี้ในคนส่วนใหญ่สามารถตรวจพบได้ภายใน 2-6 สัปดาห์ หลังจากสัมผัสเชื้อ
แต่ถ้าตรวจเฉพาะ HIV antibody testing ตรวจได้ทั้งจากเลือดและจากน้ำลาย ส่วนใหญ่จะตรวจพบ หลังการสัมผัสเชื้อ ภายในระยะเวลา 3-12 สัปดาห์
หรืออาจจะตรวจ p24 antigen ซึ่งตรวจน้อย และการแปลผลอาจถูกรบกวนได้ด้วยตัวแปรอื่น
ถ้าการตรวจข้างต้นอย่างใดอย่างหนึ่งให้ผลบวก จะต้องมีการตรวจครั้งที่สอง เพื่อยืนยัน โดยการตรวจภูมิคุ้มก้น ซึ่งแตกต่างจากการตรวจแรกถ้าให้ผลบวกอีกครั้ง ให้ตรวจครั้งที่สาม เพื่อจำนวย ไวรัส ซึ่งเรียกว่า HIV RNA test ซึ่งสามารถตรวจหาได้ภายใน 1-4 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ
ลักษณะอาการที่จะเกิดขึ้นถ้ามีการติดเชื้อไวรัส เอช ไอ วี แบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะแรก เรียกว่า การติดเชื้อระยะแรก ( acute HIV infection stage ) ซึ่งระยะนี้ อาการจะเกิดขึ้นได้ ภายใน 2-4 สัปดาห์ ลักษณะอาการจะมีลักษณะเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป จะมาด้วยอาการไข้ ปวดตามตัว เจ็บคอ มีผื่น ปวดตามข้อ ถ้าคุณมีอาการดังต่อไปนี้ควรจะรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ซึ่งในกรณีของคุณหมอขอแนะนำว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยัน ในระยะนี้ไวรัสจะมีจำนวนมากดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ไม่ควรใช้สารเสพติดที่ฉีดเข้าเส้นเลือดโดยใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
ระยะต่อมา จะเป็นระยะที่ไวรัสเริ่มจะอาศัยอยู่ในตัวคนไข้ แต่จะไม่แสดงอาการอะไร เรียกว่า clinical latency stage ซึ่งคือจำนวนไวรัสอาจจะไม่ได้มีมากและระยะนี้อาจยาวนานได้ถึง 10 ปี แต่ระยะยังมีการแพร่กระจายของโรคได้
ระยะสุดท้ายระยะที่เรียกว่า เอดส์ (AIDS) ซึ่งระยะนี้ระดับภูมิคุ้มกันจะต่ำมากทำให้มีโอกาสติดเชื้อฉวยโอกาสได้ขึ้นอยู่กับจำนวน CD 4 ที่เหลืออยู่
ปัจจุบันมียาต้านไวรัสหลายกลุ่มให้เรียกใช้ ดังนั้น ถ้าคุณตรวจพบแต่เนิ่น ๆ และ รักษาอย่างรวดเร็ว และไม่เพิ่มภาวะเสี่ยง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์สะอาด และ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้คุณสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
นอกเหนือจากการติดเชื้อ เอช ไอ วี แล้วคุณควรได้รับการตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ไวรัสตับอักเสบ บี ซี และ โรคซิฟิลิส เป็นต้น
โรคหนองใน ที่เข้าใจกันมี สองแบบค่ะ
คือ
-
Gonorrhea
-
shyphilis
ซึ่งทั้งสองโรคเป็นโรคการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ แต่ว่าเชื้อคนละตัวกันค่ะ
การรักษาก็จะมีความแตกต่างกันค่ะ
Gonorrhea: เป็นการติดเชื้อที่มีแบคทีเรียชื่อ
Neisseria gonorrhoeae bacteria ทำให้เกิดโรคค่ะ ซึ่งในเพศชายจะมาด้วยเรื่องของมีปัสสาวะเป็นหนองหรือมีหนองไหลออกมาจากท่อทางเดินปัสสาวะค่ะ
อาการเริ่มต้น
-
มีหนองไหลออกมาทางท่อทางเดินปัสสาะหรือช่องคลอด
-
มีอาการปวดคันเวลาปัสสาวะ
-
มีปัญหาเรื่องประจำเดือนมามากและปวด
-
มีอาการปวดที่ลูกอัณฑะ
-
มีอาการปวดเวลาอุจจาระ
-
คันรอบๆ ทวารหนัก
การรักษา
ceftriaxone or cefixime ด้วยการฉีด หรือ ใช้ยา azithromycin chlamydia infection ซึ่งมักจะเกิดร่วมกันนค่ะ
ปกติยากินแนะนำให้กินหลังอาหารหรือพร้อมอาหารค่ะ เนื่องจากอาจจะมีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ค่ะ
Syphilis เป็นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ที่มีเชื้อ bacterium Treponema pallidum เป็นตัวก่อโรคค่ะ
อาการจะแบ่งออกมาเป็นสี่ระยะค่ะ
-
primary Syphilis
-
secondary Syphilis
-
latent Syphilis
-
tertiary Syphilis
เริ่มแรกจะมาด้วยเรื่องแผลที่อวัยวะเพศ ซึ่งจะไม่มีอาการปวด คนไข้อาจจะไม่รู้ว่ามีการติดเชื้อ แผลที่เกิดขึ้นมักจะเกิดหลังการติดเชื้อหนึ่งอาทิตย์ค่ะมีผื่นตามตัว
ต่อมาจะเข้าสู่ระยะที่สองถ้าไม่ได้รับการรักษาคือ จะมีการของต่อมน้ำเหลืองโต ร่วมกับไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ อาการอาจจะเป็นแค่สองสามสัปดาห์
ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะเข้าสู่ระยะที่ไม่มีอาการและถ้ายังไม่ได้รับการรักษาอีกจะเข้าสู่ระยะที่สี่ซึ่งจะเชื้อจะมีผลต่อระบบประสาทและสมอง ตา หัวใจและหลอดเลือด และตับได้ค่ะ ปัญหาอาจจะเกิดตามหลังมาได้เป็นปีถ้าไม่ได้รับการรักษาค่ะ
การตรวจสามารถพบได้ในเลือด หรือ น้ำไขสันหลังค่ะ
การรักษา
penicillin เป็นยาหลักที่ใช้ค่ะ ซึ่งจะต้องได้รับการฉีด อาจจะ หนึ่งครัั้ง หรือ ฉีดต่อกันสามครั้ง ครั้งละหนึ่งเข็มเป็นเวลาสามสัปดาห์
ถ้าไม่สามารถใช้ยาได้ อาจจะพิจารณายา doxycline 100 mg รับประทานหนึ่งเม็ดสองเวลาติดต่อกัน สองสัปดาห์
แนะนำตรวจเลือดซ้ำ สามเดือนหลังการรักษา
-
-
-
ถามแพทย์
-
มีอะไรกับผญ2คนพร้อมกัน จะติดโรคไหม