ถามแพทย์

  • มีตุ่มใกล้รูทวาร คลายตุ่มน้ำ กดแล้วเจ็บเล็กน้อย ไม่มีถ่ายเป็นเลือด แกะแล้วห้อเลือด ต้องไปหาหมอไหม

  •  sirin67
    สมาชิก

    เป็นตุ่มเดี่ยวคล้ายตุ่มน้ำคะขนาด 2-3 มิล ใกล้รูทวาร กดแล้วเจ็บนิดหน่อย ไม่มีมีอาการปวดหรือถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย ตอนแรกคิดว่าเป็นสิวธรรมดาเลยไปแกะ ปรากฏว่ามันไม่ยุบขึ้นเป็นตุ่มใหม่ห้อเลือด สีตอนนี้มันเหมือนตุ่มน้ำใสที่มีเลือดแต่เหมือนจะจางลง ต้องไปหาหมอไหมคะ หรือสามารถรักษาเองที่บ้านได้เบื้องต้น 

     

    สวัสดีค่ะ คุณ sirin67,

                   ตุ่มที่ข้างรูทวารหนัก อาจเป็น

                  1. เป็นรูขุมขนอักเสบ ซึ่งเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน หรือมีการติดเชื้อเกิดร่วมด้วย อาการคือจะเห็นเป็นตุ่มแดงๆ มักมีหลายตุ่ม หรืออาจเป็นหัวหนองดูคล้ายสิวก็ได้ มักมีอาการเจ็บๆแสบๆ หรือคันร่วมด้วย สาเหตุอาจมาจากถอนหรือโกนขน หรือการสวมใส่กางเกง กางเกงชันในที่รัดแน่นหรือมีเนื้อผ้าหยาบเกินไป ทำให้เสียดสีผิวหนังและเกิดการระคายเคืองต่อรูขุมขน 

                   2. เป็นริดสีดวงทวารชนิดภายนอก จะเห็นเป็นติ่งเนื้อสีชมพูคล้ำออกมาจากรูทวารหนัก มักไม่ทำให้เกิดเลือดออกเหมือนริดสีดวงภายใน แต่จะทำให้มีอาการเจ็บ หรือปวด 

                   3. แผลปริขอบทวารหนัก ซึ่งเกิดจากการมีอุจจาระแข็ง ทำให้บาดเยื่อบุผิวทวารหนักจนเป็นแผล หากเป็นเรื้อรัง เยื่อบุผิวรอบๆ แผลที่ทวารหนักนี้จะหนาตัวขึ้น ทำให้มีลักษณะเป็นตุ่มหรือติ่งเนื้อขึ้นมาได้

                  4. หูดหงอนไก่ จะเป็นติ่งเนื้อหรือตุ่มเนื้ออ่อนๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวมักขรุขระ อาจพบติ่งเดียวหรือหลายติ่ง อาจมีอาการคันร่วมด้วยแต่มักไม่มีอาการเจ็บ จะติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์

                   5. เป็นก้อนเนื้อธรรมดาของผิวหนังรอบๆ ทวารหนัก 

                   6. ผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณใกล้รูทวาร มีการอักเสบติดเชื้อ หรือเป็นฝี  ซึ่งก็จะมีอาการบวมแดง และมีเจ็บปวดมากร่วมด้วย

                    ในเบื้องต้น ก็ไม่ควรไปแกะตุ่มดังกล่าว เพราะย่อมทำให้เกิดเลือดออกได้ และอาจมีการอักเสบติดเชื้อตามมาได้ ทั้งนี้ หากตุ่มเพิ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน และมีขนาดเล็ก ก็อาจดูอาการไปก่อน ในเบื้องต้น หลังการถ่ายอุจจาระและอาบน้ำ ก็ควรฟอกทำความสะอาดบริเวรรูทวารหนักให้สะอาด ซับให้แห้ง ใส่กางเกงชั้นในและกางเกงในที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป งดการโกนและถอนขน ยังไม่ควรทายาใดๆ หากตุ่มไม่หายไป ขยายใหญ่ขึ้น หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ