ไปตรวจเลือดที่ รพ. กลัวติดเชื้อ HIV เลยรอไป 32 วัน แล้วจึงตรวจเลือด ผลเป็น non-reactive มีตัวเลข 0.239 คืออะไร

สวัสดีค่ะ คุณ Nanticha Thongsai,

                      การเจาะเลือดตรวจที่โรงพยาบาล จะมีการใช้เข็มใหม่ทุกครั้ง ไม่มีการใช้เข็มซ้ำกับผู้อื่นค่ะ ดังนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อ HIV จากการเจาะเลือดตรวจนั้นถือว่าไม่มี

                      สำหรับวิธีการตรวจหาการเชื้อ HIV ในเลือดนั้น จะใช้เทคนิควิธีที่เรียกว่า ELISA (enzyme-linked immunosorbent assay) ซึ่งไม่ว่าจะเป็น first, second, third หรือ fourth generation ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ เพียงแต่เทคนิคและน้ำยา (ตัวแอนติเจน) ที่ใช้ในการตรวจ ได้ถูกพัฒนาให้มีความไวมากขึ้น จึงสามารถตรวจได้ไวมากขึ้นตามลำดับค่ะ

                      ส่วนสารที่ใช้ทำปฏิกิริยาในการตรวจด้วยวิธี ELISA แบ่งได้เป็น

                     - MEIA = Microparticle enzyme immunoassay 

                     - CMIA = Chemiluminescent microparticle immunoassay 

                     - ELFA  = Enzyme-linked Fluorescent Assay 

                       ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละห้องปฏิบัติการ

                   ดังนั้น หากในใบรายงานผลระบุว่า chemiluminescent ก็แสดงว่าใช้การตรวจด้วยสารที่ทำปฏิกิริยาชนิด CMIA แต่ไม่สามรถตอบได้ว่าเป็นการตรวจด้วยวิธี third หรือ fourth generation อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน การตรวจส่วนใหญ่จะเป็น fourth generation ค่ะ

                    สำหรับคำว่า DUO น่าจะเป็นชื่อรุ่นของเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจค่ะ 

                     ส่วนตัวเลข 0.239 คือ COI (cutoff index) ซึ่งแปลผลดังนี้ 

                    หากมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 1 ก็จะถือว่าเป็น reactive หรือ positive หรือคือผลเป็นบวก มีการติดเชื้

                    หากมีค่า 0.9-0.99 จะถือว่าผลไม่สามารถสรุปได้ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้ง

                    หากมีค่าน้อยกว่า 0.9 ก็จะถือว่าเป็น n0n-reactive หรือ negative หรือคือผลเป็นลบ ไม่มีการติดเชื้อ

                    ดังนั้น ในกรณีของคุณ ก็เท่ากับไม่มีการติดเชื้อ และหากได้ตรวจที่ 32 วัน ก็ถือว่าไม่ได้มีการติดเชื้อ HIV แต่อย่างใด และไม่จำเป็นต้องตรวจซ้ำอีกค่ะ