ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ 6 เม.ย. ถุงยางแตก แต่ยังไม่เสร็จ กินยาคุมฉุกเฉิน วันที่ 7 เม.ย. ได้กินยาคุมฉุกเฉินอีก จะเป็นอะไรไหม

  •  timekdm123
    สมาชิก
    วันที่5เมษายนเวลา21:00ที่ผ่านมาถุงยางอนามัยผมได้แตกที่บริเวณปลายหัวถุงยางแต่ยังไม่เสร็จเอาออกมาเห็นก่อนเลยทำการเปลี่ยนถุงยางทำต่อจนเสร็จและวันที่6เมษายนผมได้ให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินเวลาประมาณ16:00ก็ปกติไม่มีอะไรแต่พอคืนวันที่7เมษายนช่วงเวลาประมาณ04:40ผมได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีกหนึ่งครั้งแต่ถุงยางแตกอีกครั้งแต่ยังไม่เสร็จเอาออกมาเห็นก่อนเลยทำการใช้มือจนเสร็จแทนและเมื่อตอน09:00ผมได้ให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินอีกครั้งแบบนี้มีโอกาสท้องมากน้อยเพียงใดครับแล้วแฟนผมกินยาคุมฉุกเฉิน2วันติดแล้วจะมีผลต่อร่างกายมากน้อยเพียงใดครับปกติแฟนผมเคยกินยาคุมฉุกเฉินแต่ไม่มีอาการอะไรและแฟนผมเป็นคนที่ประจำเดือนมาช้ากว่าคนปกติทั่วไปเวลาประจำเดือนของแฟนผมมาประมาณ1เดือนครึ่งถึง2เดือน อยากทราบว่าผมทำถูกต้องไหมครับและมีโอกาสท้องมากน้อยเพียงใดและเรื่องการกินยาคุมฉุกเฉิน2วันติดจะมีผลอะไรกับร่างกายแฟนผมมากน้อยเพียงใดครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ timekdm123,

                       การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 5 เม.ย. หากถุงยางอนามัยแตก แต่ยังไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มี ส่วนหลังจากนั้น หากได้ใส่ถุงยางอนามัยอันใหม่ แล้วมีเพศสัมพันธ์ต่อจนเสร็จ โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อย เพราะถุงยางก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากอยู่ ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินไป

                        ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 7 เม.ย. หากถุงยางอนามัยแตก แต่ก็ยังไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มี ดังนั้น ก็ไม่จำเป้นต้องทานยาคุมฉุกเฉินไป

                         แต่หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว โดยทานทั้งในวันที่ 6 และ 7 เม.ย. ยาคุมฉุกเฉินย่อมมีผลต่อการทำงานของรังไข่ และทำให้ประจำเดือนจากนี้มาผิดปกติได้ค่ะ 

                         ดังนั้น หากจะมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ ก็ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นต้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น เพราะย่อมมีผลต่อการทำงานของรังไข่และการมาของประจำเดือนดังกล่าวไป  อีกทั้งประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ถือว่าดีมากนักเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ โดยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียงประมาณ 58%-95% ค่ะ