ถามแพทย์

  • มีอาการปวดอัณฑะ ปวดไปจนถึงใต้ท้อง อาการเป็นๆหายๆ สาเหตุเกิดจากอะไร

  •  Hari2
    สมาชิก

    Hello สวัสดีครับ ผมเป็นผู้ชายอายุ 15 ปี 

       เมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้วได้ไปหาหมอเรื่องนี ผมมีอาการปวดอัณฑะไปจนถึงใต้ท้อง อาการจะไปๆมาๆ บางครั้งจะรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย และหมอที่ไปหาก็บอกว่าผมเป็น Epididymitis แล้วให้ยา Euciprox (Ciprofloxacin 500mg) มารับประทาน  

       หลังจากรับประทานยาตัวนี้มาประมาณ 1 อาทิตย์ อาการก็หายไป แต่ตอนนี้อาการยังกลับมาเหมือนเดิม 

      สาเหตุของโรคนี้อาจจะเกิดจาก การที่ผมช่วยตัวเองบ่อยโดยไม่ล้างมือ แต่นอกจากนั้นผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ไม่ได้ออกำลังกายหักโหมเกินไป หรือมีเพศสัมพันธ์กับใคร

       ถ้าหมอสามารถหาเวลามาตอบคำถามผมได้ก็ขอบคุณมากๆเลยนะครับ 

    Hari2  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณผู้ใช้งาน

    อาการปวดอัณฑะ ปวดไปจนถึงใต้ท้อง อาการเป็นๆหายๆ นั้น อาจจะเกิดจากการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณอัณฑะ บริเวณท่อสร้างอสุจิ เป็นไส้เลื่อน

    โดยภาวะที่กล่าวมา คือ epididymitis นั้น หมายถึงภาวะที่มีท่อนำอสุจิอักเสบ ภาะนี้จะมีการอักเสบติดเชื้อของถุง/ท่อเก็บอสุจิที่ส่วนใหญ่มักเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ส่งผลให้ถุงเก็บอสุจิ อักเสบ เจ็บ บวม แดง และอุ่น/ร้อนกว่าปกติ โดยอาจมีอาการทางปัสสาวะ และอาจร่วมกับมีน้ำอสุจิเป็นเลือดได้

    จากที่กล่าวมา การช่วยตัวเองบ่อย ไม่ล้างมือนั้น อาจจะทำให้แค่ติดเชื้อตรงผิวหนังภายนอกได้ถ้ามีรอยถลอก แต่ไม่น่าทำให้เกิดเป็นถึงท่อน้ำอสุจิน้ำอักเสบที่น่าจะต้องมีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ร่วมด้วย

    ในเบื้องต้น งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบ กินยาแก้ปวดได้ ใช้น้ำสะอาดล้างเบาๆ ถ้ายังมีอาการเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ดีขึ้นหลังกินยาไปแล้ว ควรกลับไปพบแพทย์