ถามแพทย์

  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ

  • ปวดสะโพกและขา

  •  konnadeaw
    สมาชิก

    Jun 30, 2018 at 09:05 AM

    คือหนูมีอาการปวดขาข้างขวาค่ะ สาเหตุเริ่มมาจากเมื่อช่วงธันวาคมปีที่แล้วเล่นเทนนิสรู้สึกปวดช่วงสะโพกด้านขวา จนมาถึงช่วงต้นปีเริ่มมีอการปวดที่ขาขวา(ชินกับตรงสะโพก) หลังจากนั้นเลยลองไปเหยียบบนเครื่องกายภาพบำบัดจองคุณยาย (เป็นเครื่องกายภาพไม้ลาดๆ) แล้วมีอาการปวดหนักกว่าเดิมค่ะ ไม่สามารถนั่งที่พื้นหลังตรงแล้วยืนขาได้ ไปพบแพทย์ครั้งที่หนึ่ง เขาบอกว่าเอ็นอักเสบ ได้ยามากินไม่หายค่ะ ครั้งที่สองเปลี่ยนแพทย์ ไม่แน่ชัดว่าเป็นอะไร มีการตรวจเอกซเรย์กระดูก เขาก็บอกว่าปกติดีให้ทำกายภาพบำบัดค่ะ ซึ่งติดเรียนที่ตจว.ไม่วามารถทำได้ค่ะ ได้ยามากินก็ยังมีอการเหมือนเดิมค่ะ บางครั้งรู้สึกว่าดีขึ้นแต่ก็กลับมาเป็นอีก อาการตอนนี้คือจะลุกยืนก็ปวดตรงช่วงสะโพก บั้นท้าย ชาไปถึงช่วงขาเลยค่ะ เป็นทุกครั้งที่ขยับลุกเดิน ทรมานมากค่ะ บางครั้งนั่งหลังตรงๆก็เจ็บช่วงบั้นท้ายมาก เดินเยอะๆยิ่งปวดเลยค่ะ ส่งผลกระทบต่อขีวิตประจำวันหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถยืดหลังตรงแล้วยกขายืดแนวตรงจาตรงได้ ถ้าทำได่คือหลังจะงอโค้งเลยค่ะ อาการตอนนี้คือรวมๆประมาณ7เดือน รู้สึกเป็นรุนแรงมากๆ 3เดือนแล้วค่ะ ตอนนี้แค่นั่งขัดสมาธิหลังตรงก็เจ็บช่วงสะโพห ตึงมาที่ขาแล้วค่ะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ
    konnadeaw  แพทย์หญิงสลิล ศิริอุดมภาส
    สมาชิก

    Jun 30, 2018 at 09:56 AM

     สวัสดีค่ะ คุณ konnadeaw,

                    สาเหตุของอาการปวดสะโพก ร่วมกับปวดขา ที่พบบ่อย มักเกิดจาก

                    1.การทำงานมากไปของกล้ามเนื้อ หรือใช้ท่าทางผิดท่าในการเคลื่อนไหว อาการปวดจะเป็นเฉพาะที่ มีจุดกดเจ็บ ไม่ปวดร้าวไปที่ใด ไม่มีอาการชาร่วม อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเมื่อมีการบิดตัว เอี้ยวตัว ไอ จาม 

                    2. หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน  ส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณเอว ซึ่งอาการปวดจะเป็นแบบปวดร้าว ปวดเสียว แปล๊บๆ ตั้งแต่บริเวณเอว แก้มก้น และมักปวดร้าวลงไปถึงขาและเท้าได้ โดยอาจเป็นข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้ อาการปวดจะเป็นนมากขึ้นเวลามีการเคลื่อนไหว ก้มตัว นั่ง ไอ จาม แต่จะดีขึ้นเมื่อนอน หรือแอ่นตัวไปด้าหลัง ในรายที่เป็นมากจะมีอาการชาร่วมด้วย หรือหากรุนแรงอาจถึงขั้นขาอ่อนแรง กลั้นปัสสาวะ อุจจาระไม่ได้ สาเหตุมักเกิดจากการมีน้ำหนักตัวมากไป การยกของหนักบ่อยๆ หรือใช้ท่าทางไม่ถูกต้องในการทำงานต่างๆ เป็นต้น

                     3.กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (piriformis syndrome) อาการจะคล้ายกับโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท

                    ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่พบได้น้อย อาจเกิดจาก

                   - ช่องไขสันหลังตีบแคบลง มักเกิดจากการเสื่อมตามอายุ จึงมักพบในผู้สูงอายุ นอกจากนี้อาจเกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิดของโพรงกระดูกสันหลัง  จากอุบัติเหตุบริเวณหลัง จากโรคกระดูกพรุน เป็นต้น อาการปวดจะคล้ายกับโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน แต่มักปวดมากเวลาแอ่นตัว และดีขึ้นเมื่อก้มตัว หรือนั่ง 

                   - กระดูกสันหลังยุบตัว

                   - มีการติดเชื้อที่กระดูกสันหลัง เช่น วัณโรค

                   - เนื้องอกและมะเร็งของเนื้อเยื่อ กระดูก และเสน้นประสาท บริเวณหลัง

                   -  มะเร็งแพร่กระจายมาที่กระดูกสันหลังช่วงล่าง

                   - โรคนิ่วในไต นิ่วในท่อไต ก็อาจทำให้มีอาการปวดหลังได้เช่นกัน

                   หากเป็นมานานหลายเดือน และอาการเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ เพื่อตรวจร่างกายและตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุค่ะ การรักษาก็จะขึ้นกับสาเหตุที่เป็นค่ะ ซึ่งอาจมีทั้งการใช้ยาทาน ยาฉีด การทำกายภาพบำบัด การใส่อุปกรณ์เสริม รวมทั้งการผ่าตัดค่ะ

                    ในเบื้องต้น ให้หลีกเลี่ยงการยกของหนัก งดการยืนหรือเดินนานๆ งดการทำงานในท่าก้ม หรือก้มๆ เงยๆ งดการใส่รองเท้าส้นสูง ใช้ท่าทางในการทำงานให้ถูกต้อง และอาจทานยาแก้ปวดแก้อักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น  ไดโคลฟีแนค (diclofenac), ไพรอกซิแคม (piroxicam) เป็นต้น ร่วมกับยาคลายกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการไปก่อนค่ะ


  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ