ทานยาเร่งไข่ตก ประจำเดือนยังไม่มา ผลตรวจการตั้งครรภ์เป็นลบ มีโอกาสท้องไหมคะ

สวัสดีค่ะ คุณ Pichaya

การที่ประจำเดือนไม่มา เเล้วต้องการมีบุตรนั้น ถ้าลองนับจากวันเเรกของรอบเดือนครั้งสุดท้าย ตอนนี้น่าจะประมาณ 7 สัปดาห์ ซึ่งถ้ามีการตั้งครรภ์จริง น่าจะสามารถตรวจการตั้งครรภ์จากการจุ่มปัสสาวะได้เป็น 2 ขีด แล้วค่ะ เเต่ถ้าขึ้นเพียงขีดเดียวในตอนเช้า มีโอกาสที่น่าจะยังไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ 

ทั้งนี้ ถ้ามีการรับประทานยาเร่งไข่ตก ไม่แน่ใจว่าตอนนี้กำลังรักษาภาวะมีบุตรยากอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้ามีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และต้องมีติดต่อกัน 1 ปี สำหรับรายที่อายุน้อยกว่า 35 ปี แต่ถ้าอายุมากกว่า 35 ปี อาจรอในระยะเวลาที่ต่ำกว่าคือ 6 เดือนติดต่อกันค่ะ แล้วยังไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น อาจต้องหาสเหตุก่อนค่ะว่าเกิดจากอะไร

ส่วนมาก จะพิจารณา 3 ประเด็น ค่ะ คือ

-การตกไข่  ถ้ามีรอบเดือนที่สม่ำเสมอ แสดงว่าน่าจะมีไข่ตกในทุกเดือน ซึ่งอาจลองนับวันที่ตกไข่ จากช่วงกึ่งกลางของรอบเดือนค่ะ หรืออาจลองใช้ LH kit คือชุดการตรวจว่ามีการตกไข่ เพื่อเลือกวันที่มีเพศสัมพันธ์ค่ะ

-ท่อนำไข่ ถ้ามีประวัติเคยมีปีกมดลูกอักเสบ อาจมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ท่อนำไข่ตันได้ ครรภ์ค่ะ

-มดลูก อาจมีเนื้องอก ที่กดเบียดโพรงมดลูก หรือมีมดลูกที่ผิดปกติไป ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ค่ะ 

ดังนั้น ถ้าคิดแล้วว่า เกิดจากการไม่ตกไข่ ดังนั้น การใช้ยากระตุ้นไข่ ถึงจะเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ค่ะ ส่วนมากเป็นยารับประทานชื่อ Clomiphene citrate รับประทานยาติดต่อกัน 5 วันค่ะ

ถ้าสามารถทำให้ไข่ตกได้จริงๆ มีเพศสัมพันธ์ช่วงนั้นจะเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ค่ะ เเต่ถ้าไม่สามารถทำให้เกิดการตกไข่ได้ก็อาจไม่สำเร็จค่ะ ซึ่งถ้ายังไม่สำเร็จ อาจต้องหาสาเหตุอื่นๆร่วมด้วยค่ะ เช่น PCOS หรือถุงน้ำรังไข่หลายใบ (สัมพันธ์กับอาการน้ำหนักมาก หน้ามัน ขนดก ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เเละเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิต และไขมัน) ที่จะทำให้เกิดการไม่ตกไข่เรื้อรัง หรือกระตุ้นการตกไข่ยาก หรือ อาจเกิดภาวะเเทรกซ้อนจากการให้ยา คือรังไข่เกิดถุงน้ำเกิดขึ้น ดังนั้น แนะนำว่ากลับไปพบเเพทย์ที่ให้ยาสำหรับการกระตุ้นไข่ค่ะ เพื่อตรวจละเอียดเพิ่มเติม รวมไปถึงควบคุมน้ำหนักค่ะ เนื่องจากน้ำหนักที่ลดลงจะทำให้ประสิทธิการตกไข่ดีขึ้น