กินยาคุมมา 2 ปี หยุดทานยาไป 2 เดือน จึงมีประจำเดือนมา หลังจากนั้นหายไป 4-5 เดือน เกิดจากยาคุมไหม

 สวัสดีค่ะ คุณ jutamart,

                   การที่ประจำเดือนไม่มานาน 4-5 เดือน หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้ว พบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็ไม่น่าเกิดจากการตั้งครรภ์ค่ะ โดยอาจเกิดจาก

                   1. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิวเยอะ และมีขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป     

                   2. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ 

                   3. มีพังผืดเกิดขึ้นในมดลูก 

                   4. มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น

                   5. รังไข่เสื่อมก่อนกำหนด แต่จะพบในวัย 40 ปีขึ้นไป

                    สำหรับยาคุมกำเนิดนั้น เมื่อหยุดทานแล้ว ก็จะไม่มีผลต่อการทำงานของรังไข่อีก ดังนั้น การที่ประจำเดือนไม่มา จึงไม่ได้เกิดจากผลของยาคุมกำเนิดค่ะ อีกทั้งหากก่อนที่จะทานยาคุม ได้มีประจำเดือนมาผิดปกติ คือนาน 2-3 เดือนมาสักครั้งอยู่แล้ว ก็แสดงว่าได้มีความผิดปกติมาก่อนแล้วค่ะ

                    ดังนั้น แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจหาสาเหตุว่ามีโรคอะไรหรือไม่ หากไม่ได้เกิดจากการมีโรค ก็อาจจะเกิดจากการผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ ซึ่งการรักษาคือการทานยาปรับฮอร์โมน หรืออาจทานยาคุมกำเนิดก็ได้