ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยาง 2 ครั้ง ประจำเดือนยังไม่มา รู้สึกเหมือนมีอะไรเต้นอยู่ในท้อง จะท้องไหม

  •  Phithayarat Kulthuang
    สมาชิก

    สวัสดีคับ ผมมีอะไรกับแฟนป้องกันโดยการใส่ถุงยาง2ถุง ถุงยางทั้ง2ไม่แตกไม่ลั่วคับแต่ไม่ได้กินยาคุมกำเหนิด ฝ่ายหญิงมีอาการประจำเดือนไม่มาเป็นเวลา1เดือนรู้สึกเหมือนมีอะไรเต้นในท้อง (ตุ้บๆ)เหมือนเสียงหัวใจอะคับ จะท้องมั้ยคับ?  

    ก่อนหน้านี้ประมาณ2เดือนมีเพศสำพันธุ์ ฝ่ายหญิงได้กินยาคุมกำเหนิดฉุกเฉินไปและมีการใส่ถุงยางควบคู่ด้วยคับจะเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินที่กินไปไหม

     สวัสดีค่ะ คุณ Phithayarat Kulthuang,

                            การที่ประจำเดือนยังไม่มานั้น อาจเกิดจาก

                            1. การตั้งครรภ์ เนื่องจากการใช้ถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% โดยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%-18% และการใส่ถุงยางอนามัย 2 ชั้น ถือเป็นวิธีใช้ที่ผิด ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม จะทำให้มีโอกาสในการตั้งครรภ์มากขึ้น

                           2. มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว

                           3. มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เช่น ไข้หวัด ท้องเสีย เป็นต้น

                           สำหรับยาคุมฉุกเฉินที่เคยทานไปก่อนหน้านั้น อาจส่งผลทำให้ประจำเดือนมาช้าได้ แต่ไม่นานเกิน 2 เดือน ดังนั้น แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูเป็นอันดับแรก หากตรวจไม่พบก็ให้รอประจำเดือนไปอีกซักระยะค่ะ

                           สำหรับอาการเด็กดิ้นนั้น มักจะพบเมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือนไปแล้วสำหรับในท้องแรก ดังนั้น อาการรู้สึกมีอะไรเต้นในท้อง จึงไม่น่าเกิดจากการตั้งครรภ์ แต่อาจเกิดจากการเคลื่อนไหวของลำไส้หรือหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องที่จะเต้นตามจังหวะของหัวใจค่ะ