ถามแพทย์

  • ประจำเดือนไม่มา 5 เดือน ไปพบแพทย์ได้ยาปรับฮอร์โมน ประจำเดือนมา แต่ต่อมาหายไปอีก มีวิธีแก้ไหม

  •  Oiw Patsorn Janpirom
    สมาชิก
    สวัสดีคุนหมอ..พอดีประจำเดือนไม่มาตั้ง 5 เดือนพอเดือนที่ 6ไปหาหมอหมอตรวจไม่พบการตั้งครรภ์หมอเลยให้ยาปรับฮอร์โมนมากิน..กินได้อาทิตย์นึงอาทิตย์ต่อมาก็มีประจำเดือนพอเดือนต่อไปประจำไม่มาอีกเลยจะเข้า 4 เดือนแล้วเลยไปหาหมออีกหมอก็ตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ให้ยาปรับฮอโมนมากินถ้าต่อไปประจำเดือนไม่มาอีกต้องกินยาปรับฮอโมนตลอดไปหรอค่ะมีวิธีแก้ไขไหมคะอยากมีลูกแต่งงานมา 4 ปีแล้วไม่ได้คุมกำเนิดจะ 2 ปีแล้ว

     สวัสดีค่ะ คุณ Oiw Patsorn Janpirom,

                       การที่ประจำเดือนขาดหายไป 4-5 เดือน และได้ตรวจหาการตั้งครรภ์แล้วไม่พบ อาจเกิดจาก

                      1. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะที่รังไข่ทั้ง 2 ข้างมีถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมาก  (PCOS)   

                      2. มีโรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮฮร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้ 

                       3. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ  

                       4. มีพังผืดเกิดขึ้นในมดลูก 

                       5. มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น

                       หากเคยได้ตรวจกับแพทย์แล้วไม่พบโรคทางกาย อีกทั้งเมื่อทานยาปรับฮอร์โมนแล้วมีประจำเดือนมา ก็น่าจะเกิดจากการผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ ซึ่งโดยปกติ การรักษาคือการทานยาปรับฮอร์โมน โดยมักจะให้ทาน 3 รอบต่อเนื่องกัน แล้วจึงประเมินผลอีกครั้ง

                         ส่วนการที่ไม่มีคุมกำเนิดมา 2 ปีแล้ว และได้มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ แต่ยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ถือว่ามีภาวะมีบุตรยาก ซึ่งแนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ โดยควรไปทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เพราะสาเหตุอาจเกิดจากฝ่ายชายก็ได้ หรือสาเหตุจากทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ค่ะ