ถามแพทย์

  • ประจำเดือนไม่มา 3 เดือน

  • สวัสดีค่ะ คือหนูมีปัญหาเรื่อง ประจำเดือนไม่มาค่ะ 3 เดือน คือเดือน มดราคมที่ผ่านมาหนูเข้าน้ำเพื่อปัสสาวะตามปกติ วันนี้มีเลือดหยดหนูก็นึกว่าหนูเป็นประจำเดือน ก็เลยใส่ผ้าอนามัยปกติค่ะ แต่พอจะมาดูว่ามีเลือดเยอะยังว่าจะเปลี่ยนผ้าอนามัยกลับไม่มีเลือดสักหยดเลยค่ะ หลังจากนั้นมาหนูก็มีตกขาวเรื่อยๆ ละรู้สึกหน่วงๆมดลูก ละหนูพบว่าหลังมีอะไรกะแฟนหนูมีเลือดออกค่ะ (แฟนเป็นผู้หญิงค่ะ) ละเดือนที่ผ่านมาหนูก็มีตกขาวละคล้ายเหใือนมีเลือดปนอ่ะค่ะ หนูไปอัลตราซาวดูหมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะเชื้อรา หมอให้ยามากิน มาสอด แต่ประจำเดือนหนูยังไม่มาเลยค่ะ ตอนนี้เข้าเดือนที่ 3 แล้ว หนูกลัวเป็นมะเร็ง อาการเสี่ยงเท่าที่หนูอ่านคือตรงเยอะมากเลยค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ชุดาภา ขุลีหลาย,

                     สาเหตุที่ประจำเดือนไม่มา ได้แก่

                 1. การตั้งครรภ์ แต่หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย ก็ไม่ใช่สาเหตุ

                 2.โรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮฮร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้

                  3. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำก็ได้ ซึ่งจะไปมีผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศของต่อมใต้สมองเช่นกัน

                   4 ภาวะที่รังไข่ทั้ง  2 ข้างมีถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมาก เรียกว่า polycystic ovary syndrome (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิว ขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป

                   5.เกิดการตีบตันของปากมดลูกหรือโพรงมดลูก ซึ่งเกิดจากพังผืดที่เป็นผลจากการอักเสบของมดลูก 

                   6. เป็นเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย

                    สำหรับอาการของมะเร็งที่กังวล หากหมายถึงมะเร็งปากมดลูกนั้น มักจะมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย ตกขาวปนเลือด มีกลิ่นเหม็น อาจมีปวดท้องน้อย เป็นต้น แต่มักไม่ได้ทำให้เกิดอาการขาดประจำเดือน

                   ส่วนอาการตกขาว หากเป็นตกขาวที่ผิดปกติ ร่วมกับปวดท้องน้อย อาจเกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด หรือมีมดลูกอักเสบก็ได้ ซึ่งหากเป็นมดลูกอักเสบ ก็อาจทำให้ประจำเดือนไม่มาหรือมาผิดปกติได้ อาการดังที่เป็นอยู่ไม่จำเป็นต้องเป็นอาการของมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น

                  แนะนำว่าหากประจำเดือนยังคงไม่มา หรืออาการตกขาวและปวดท้องน้อยไม่หายหลังจากทานยาและสอดยาครบแล้ว ควรกลับไปพบสูติ-นรีแพทย์เพือ่หาสาเหตุอีกครั้ง