ถามแพทย์

  • ประจำเดือนไม่มา 2 เดือนแล้วตรวจแล้วไม่พบว่าตั้งครรภ์

  •  Nui Spong
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ คือมีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ ตอนนี้ประจำเดือนไม่มา 2 เดือนแล้วค่ะ ซื้อที่ตรวจมาตรวจ 2 รอบก็ไม่พบว่าท้องค่ะ ก่อนหน้าที่ประจำเดือนไม่มาเคยกินยาคุมมาได้ปีกว่าๆ แล้วก็หยุดทานค่ะ ทานแพงสุดท้ายเดือนตุลาคม ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดวันที่ 30 พ.ย. ถึง วันที่4 ธ.ค. ค่ะ นี้ก็สิ้นเดือนม.ค. ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ แต่มีอาการตกขาว ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดท้องน้อย หน้าอกคัด ช่วงนี้พักผ่อนน้อยค่ะ นอนวันล่ะ 5 ชม.ทุกวันค่ะ อยากทราบว่าจะตั้งท้องไหมค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณ Nui Spong การใช้ยาคุมกำเนิด เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้มีการขาดประจำเดือนได้ค่ะ แม้ว่าจะหยุดยาแล้วนะค่ะ ดังนั้น สิ่งที่คุณควรกระทำในช่วงนี้แนะนำว่าถ้ามีเพศสัมพันธ์ให้สวมถุงยางอนามัยก่อนค่ะ เพื่อป้องกันไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเพศหญิงยังไม่กลับเข้าที่อาจจะทำให้ประจำเดือนยังไม่มาตามปกติค่ะ

    ถ้าตรวจการตั้งครรภ์ไปสองครั้ง คือ สองรอบเดือนแล้วไม่น่ามีการตั้งครรภ์ค่ะ แต่ก็อาจจะมีการตั้งครรภ์ในระยะแรกที่ยังตรวจไม่พบในปัสสาวะได้เช่นกันค่ะ ดังนั้นใน กรณีของคุณหมอแนะนำใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบใส่ถุงยางอนามัยในช่วงนี้ไปก่อนนะค่ะ และถ้ายังไม่มีประจำเดือนแนะนำตรวจการตั้งครรภ์ซ้ำค่ะ ปกติจะตรวจพบการตั้งครรภ์ในปัสสาวะหลังจากตั้งครรภ์อย่างน้อย แปด สัปดาห์ค่ะ

    แต่มีอาการตกขาว ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดท้องน้อย หน้าอกคัด อาจจะเป็นอาการเตือนก่อนมีรอบประจำเดือนก็ได้ค่ะ ลองสังเกตอาการไปก่อนนะค่ะ และอาจจะร่วมกับการรับประทานยาแก้ปวดได้ค่ะ