-
มีเพศสัมพันธ์ กินยาคุมฉุกเฉิน 7 วันต่อมามีเลือดออก หลังจากนั้นประจำเดือนไม่มา 2 เดือนกว่า จะท้องไหม
-
Nov 14, 2018 at 09:51 PM
คือว่าปลายเดือนสิงหาคม ดิฉันมีอะไรกับแฟนแต่ดิฉันกินยาคุมฉุกเฉิน และแฟนใส่ถุงยางและบางช่วงที่ไม่ได้ใส่ พอผ่านมา 7 วันก็มีประจำเดือนประมาณ 3-5 วัน หลังจากนั้นก็ไม่มาเป็นเวลา 2 เดือนกว่าแล้ว มีโอกาสท้องไหมคะ ปกติแล้วดิฉันเป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติประมาณ 2 เดือนมาครั้งเป็นไปได้ไหมที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนเป็นเพราะการกินยาคุมฉุกเฉิน
และดิฉันได้ซื้อยาสตรีมากิน เริ่มกล่องที่ 2 แล้วประจำเดือนยังไม่มาเลย รู้สึกเจ็บๆคับๆที่เต้านม อารมณ์ช่วงนี้หงุดหงิดง่าย และรู้สึกท้องป่องๆ แบบนี้มีโอกาสเสี่ยงตั้งครรภ์ไหมคะ
Nov 15, 2018 at 06:01 AM
สวัสดีค่ะ คุณ Pikulpikul,
ยาคุมฉุกเฉินนั้น ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% โดยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 58%-95% ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์
หลังจากทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์ บางรายอาจมีเลือดออกจากช่องคลอดได้ ซึ่งถือเป็นเลือดที่เป็นผลจากยา ไม่ใช่ประจำเดือนจริงๆ ดังนั้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์จึงยังอาจมีอยู่ได้ แนะนำว่าควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนค่ะ หากตรวจไม่พบจะได้ไม่ต้องกังวล ส่วนการที่ประจำเดือนมา 2 เดือนครั้ง ถือว่ามีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนนานกว่าปกติ โดยอาจเกิดจาก
- การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะที่รังไข่ทั้ง 2 ข้างมีถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมาก (PCOS)
- มีโรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮฮร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้
- ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอรโมนต่ำ
ดังนั้น หากประจำเดือนยังไม่มา และตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ หากไม่พบโรคทางกาย ก็น่าจะเกิดจากการผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ ซึ่งการรักษาคือการทานยาปรับฮอร์โมน
ส่วนยาสตรี หากได้ทานมา 2 กล่องแล้ว ควรหยุดทานก่อน เพราะอาการต่างๆ ที่เป็นอยู่ เช่น เจ็บคัดเต้านม อารมรณ์แปรปรวน อาจเกิดจากผลของยาสตรีได้ หรืออาจเป็นอาการก่อนการมีประจำเดือนมาก็ได้ค่ะ
-
ถามแพทย์
-
มีเพศสัมพันธ์ กินยาคุมฉุกเฉิน 7 วันต่อมามีเลือดออก หลังจากนั้นประจำเดือนไม่มา 2 เดือนกว่า จะท้องไหม