ปวดท้องประจำเดือนทุกเดือนตั้งแต่อายุ 12 ปี ตอนนี้ 29 ปี เลยกินยาคุม แต่ประจำเดือนมาน้อยลงและสีดำ เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ St Ja Supattra,

                     อาการปวดท้องประจำเดือนนั้น หากเป็นมาตั้งแต่วัยรุ่น ถือเป็นอาการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความผิดปกติอะไรของมดลูกและรังไข่ ส่วนจำนวนวันที่มีประจำเดือนนั้น มีได้ตั้งแต่ 2-7 วัน ดังนั้น หากประจำเดือนมานานไม่เกิน 1 สัปดาห์ ก็ถือว่าปกติเช่นกัน 

                     โดยปกติ อาการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมินั้น จะค่อยๆ ลดน้อยลง เมื่ออายุมากขึ้น ส่วนการบรรเทาอาการ ก็จะอาศัยการทานยาแก้ปวดและการดูแลตนเองต่างๆ ส่วนการทานยาคุมกำเนิด ก็จะเป็นตัวเลือกในในลำดับหลังๆ (หากไม่ได้ต้องการคุมกำเนิด) เพื่อไม่ให้ได้รับผลข้างเคียงของยาโดยไม่จำเป็น

                     ดังนั้น เมื่อทานยาคุมกำเนิดไปแล้ว และได้ทานต่อเนื่องไปหลายแผง ผลอย่างหนึ่งที่พบได้ คือการมีเลือดประจำเดือนมาน้อยลง ซึ่งเป็นจากยาที่ไปทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง แต่ก็ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด และเมื่อเลือดประจำเดือนมีปริมาณน้อย ก็ย่อมมีสีน้ำตาลได้

                      แนะนำว่า หากไม่ได้ต้องการที่จะคุมกำเนิด ก็ควรหยุดทานยาคุมกำเนิด และสังเกตดูก่อนว่า ประจำเดือนจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่ หรือยังคงมีอาการปวดท้องและปวดหลังมากหรือไม่ หากประจำเดือนมาปกติดี และมีอากรปวดท้องและปวดหลังไม่มากในขณะที่มีประจำเดือน ก็เพียงแค่ทานยาแก้ปวดเป็นครั้งคราว แต่หากประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีปวดท้องและปวดหลังมาก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุก่อน หากตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ อาจพิจารณากลับไปทานยาคุมกำเนิดอีกครั้ง หรือเลือกฉีดยาคุมกำเนิดค่ะ