ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมา2รอบ กินยาคุมกำเนิดอยู่ เกิดจากอะไร

  •  Puinoon Sompamit
    สมาชิก
    ประจำเดือนได้มาวันที่ 20 มิถุนายน และหายวันที่ 24 มิถุนยน และหลังจากนั้้นวันที่ 1 กรกฎาคม มีเลือดไหลออกมาคล้ายประจำเดือน แต่ปริมาณไม่มากไม่เท่าไร มีสีแดงค่อนข้างแดงคล้ำ ไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด และได้มีการทานยาคุมกำเนิดชนิด21วัน มาประมาณ5 เดือนแล้ว อยากทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
    Puinoon Sompamit  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ Puinoon Sompamit

    การมีเลือดออกทางช่องคลอดในระหว่างรับประทานยาคุมกำเนิด อาจแบ่งได้เป็น

    1.เลือดออกแค่กระปริดกระปรอยติดกางเกงใน อาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมในช่วง 1-3 เดือนแรกได้ ไม่ควรเป็นเรื้อรัง หรือมีกลิ่นเหม็นคาวกว่าปกติ ไม่มีอาการปวดหน่วงท้องน้อย

    2.เลือดออกจากช่องคลอดที่ค่อนข้างมากจนต้องใช้ผ้าอนามัย อาจมีสาเหตุอื่นๆนอกเหนือจากผลข้างเคียงจากยาคุมเช่น มีการติดเชื้อในช่องคลอด ปากมดลูก หรือมดลูก มีการอักเสบของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นหนองใน ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ มีเนื้องอกมดลูก เป็นต้น 

    แนะนำสังเกตอาการค่ะว่าเลือดที่ออกเป็นลักษณะใด หากเลือดออกมาก ปวดหน่วงท้องน้อย เลือดมีกลิ่นคาวมาก น่าจะมีความผิดปกติ ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ แพทย์อาจตรวจภายในและทำอัลตราซาวน์หน้าท้องเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมค่ะ

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ทำความสะอาดอวัยวะเพศภายนอกด้วยน้ำสะอาดวันละ 2 ครั้ง ไม่สวนล้างช่องคลอด งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน และรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ