เป็นตุ่มแดงที่หลัง ไม่มีอาการคันหรือเจ็บ

สวัสดีค่ะ คุณ ThiTikarn Rungrojpraguy,

                   ตุ่มสีแดงที่หลัง อาจเป็น

                   1.การอักเสบของเนื้อเยื่อ (cellulitis) ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้ผิวหนังบวมแดง นูนเป็นตุ่มได้ แต่ก็จะมีอาการเจ็บและปวดร่วมด้วย 

                    2. เป็นฝี ผิวหนังจะบวมแดง นูนเป็นตุ่มได้ แต่ก็จะมีอาการเจ็บและปวดร่วมด้วย รวมถึงเห็นหัวหนองสีขาวๆ เหลืองๆ และอาจมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัวร่วม

                    3. การโดนแมลงสัตว์กัดต่อย แต่ก็จะมีอาการเจ็บ แสบ คันร่วมด้วย

                    4. เป็นซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง โดยจะคลำได้เป็นตุ่ม ก้อนที่ค่อนข้างนิ่ม มักไม่เจ็บไม่ปวด แต่มักจะมีสีเดียวกับผิวหนัง

                    5.เป็นเนื้องอกชนิดต่างๆ ของชั้นผิวหนังและชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เช่น ก้อนเนื้องอกหลอดเลือด ซึ่งจะมีสีแดงได้

                   6. เป็นแผลเป็นชนิดนูนหนา (คีลอยด์) ซึ่งจะเกิดตามหลังการมีบาดแผลมาก่อน โดยอาจเป็นแผลเล็กๆ ก็ได้ เช่น แผลจากการเกา แผลจากแมลงกัด แผลจากการเคยเป็นสิวที่หลัง เป็นต้น โดยจะเห็นเป็นตุ่มนูนแดง หรือออกม่วงแดง มักไม่มีอาการ แต่อาจันเล็กน้อยได้

                   หากตุ่มเป็นมานานแล้ว ไม่มีอาการเจ็บ แสบ ปวด ก็ไม่น่าเกิดจากการอักเสบติดเชื้ออะไร โดยอาจเป็นเนื้องอกหรือแผลเป็นคีลอยด์ก็ได้  แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและวินิฉัยให้ถูกต้องค่ะ ในเบื้องต้น ก็ไม่ควรไปแกะ เกาหรือบีบตุ่มดังกล่าว และไม่ควรใช้ยาอะไรไปทาเองค่ะ