มีการติดเชื้อที่ลำไส้ ปวดท้อง หลังยาได้ยาครบยังปวดท้องอยู่ และมีเลือดออกจากช่องคลอด เป็นผลข้างเคียงของยาหรือไม่

สวัสดีคะอยากจะเรียนถามคุณหมอเพื่อไขข้อสงสัยคะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหนูปวดท้องมากบริเวรรอบสะดือให้ps.7และไปรพ.มาในวันนั้นถึงรพ.หนูอวกแตกประมาน4ครั้งเยอะพอสมควรแต่ไม่มีถ่ายเหลว หมอไม่มีการตรวจเลือดตรวจปัสสาวะให้แค่ฉีดยาลดกรดเข้าเส้น ประมาน30นาทีก็ปวดทุเลาลงps.3 และหมอก็ให้ยาแก้วิงเวียนกับเกลือแร่และบอกว่าหากมีการปวดย้ายข้างให้รีบมาหาหมออาจจะเป็นใส้ติ่งและให้กลับบ้าน เช้ามาอีกวันก็ปวดเหมือนเดิมจึงไปรพ.อีกที่นึงหมอก็ไม่มีการตรวจเลือดตและปัสสาวะให้แต่ยาแก้ปวดท้อง แอเอ็ก และยารักษาแผลกระเพาะลำไส้และให้กลับบ้าน เช้าอีกวันนึงเท่ากับว่าเป็นวันที่3ของการปวดท้องหนูก็ไปอีกรพ.อีกที่นึงวันนี้เริ่มมีถ่ายเหลวเป็นนำ้สีส้มๆหมอมีการตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะสรุปwbcขึ้นเกิดการติดเชื้อที่ลำไส้ปวดตั้งแต่วันอาทิตย์แต่พึ่งมาตรวจพบว่าติดเชื้อวันอังคาร หมอให้อะเซบไตร และบอกให้มารับอะเซบไตรเข้าเส้นอีก2วันเท่ากับว่าเป็น3วันและมีนัดพบหมอด้วยในวันให้ยาวันสุดท้ายคือวันพฤหัส ตอนพบหมอหนูก็บอกว่ายังปวดอยู่มันเหมือนโดนบีบใส้ เวลาเดินหรือขยับตัวมันจะรู้สึกเหมือนข้างในระบม หมอจึงให้ยาฆ่าเชื้อให้กินอีก3วันและยาแก้ปวดท้อง ยารักษาแผลในกระเพราะอาหารและลำไส้ เมื่อให้ยาครบแล้วก็ยังคงมีปวดอยู่ ถัดไปตอนเที่ยงวันศุกร์หนูสังเกตุความผิดปกติว่ามีเลือดออกจากช่องคลอดทั้งที่หนูเป็นประจำเดือนหมดไปแล้วเมื่อวันที่6/7/62มีลักษณะเป็นเมือกใสสีแดงปนเลือดออกมาไม่มากไม่มีกลิ่น หนูอยากถามว่ามันผิดปกติไหมคะหรือมันเป็นเอฟเฟ็คของยาอะเซบไตร และอยากถามอีกว่าหนูยังมีอาการระบมท้องอยู่อาการมันทรงๆไม่หายไปสักที่วันนี้ครบ1อาทิตย์แล้วคะทั้งอาทิตย์กินอะไรแถบไม่ได้ปากคอขมไปหมด กินได้มื้อละ3-4คำคะ ที่มันยังปวดมันต้องใช้เวลามากกว่านี้ใช้ไหมคะหรือว่ามันควรนานเกินควรคะให้ps.2คะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ