ตกขาวรักษาไม่หาย ตรวจภายในหมอบอกมีแบคทีเรีย เข้าห้องน้ำแล้วมีเลือดออกบางครั้ง

 สวัสดีค่ะ คุณ ppaanniissaarraa,

                      หากได้ตรวจภายในและมีการป้ายเซลล์จากปากมดลูกไปตรวจแล้ว ไม่พบว่ามีการติดเชื้อรา ไม่พบเซลล์มะเร็ง มีแค่แบคทีเรีย อาการตกขาวที่มีปริมาณมากและมีกลิ่นเหม็นคาวดังกล่าว  น่าจะเกิดจากการมีช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis) ซึ่งจะทำให้มีตกขาวปริมาณมากขึ้น อาจเป็นสีเทาขุ่น หรือขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็นเหมือนคาวปลา และอาจทำให้รู้สึกแสบหรือระคายเคืองในช่องคลอดได้

                    สาเหตุที่ทำให้เกิด เช่น การสวนล้างช่องคลอดบ่อยไป หรือใช้สบู่หรือน้ำยาที่มีความรุนแรง หรือเกิดจากการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อบ่อยๆ การมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนมากกว่า 1 คน หรือมีการเปลี่ยนคู่นอน แต่ไม่จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะฝ่ายชายจะไม่ได้ติดเชื้อชนิดนี้ไปด้วย  การรักษาคือการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ เช่น เมโทรนิดาโซล (metronidazole)  คลินดามัยซิน (clindamycin) เป็นต้น อย่างไรก็ตามอาการจะเป็น ๆ หาย ๆ ได้ตามปัจจัยดังกล่าวค่ะ

                    ส่วนการมีเลือดออกเวลานั่งและเบ่งถ่าย แนะนำให้สังเกตว่าเลือดที่ไหลออกจากทวารหนักหรือช่องคลอดค่ะ หากออกจากทวารหนัก มักเกิดจากโรคริดสีดวงทวาร แต่หากออกจากช่องคลอด อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น มีติ่งเนื้อใที่ปากมดลูก มีมดลูกอักเสบ มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น ซึ่งในการตรวจภายในก็จะต้องพบสาเหตุเหล่านี้ค่ะ ดังนั้นหากตรวจไม่พบ เลือดที่ออกน่าจะกเิดจากโรคริดสีดวงทวารค่ะ ซึ่งสาเหตุมักเกิดจากการมีท้องผูกเป็นประจำ ชอบเบ่งถ่าย การนั่งอุจจาระนาน หรือมีท้องเสียบ่อย ท้องเสียเรื้อรัง ใช้ยาสวนบ่อย น้ำหนักตัวมาก กำลังตั้งครรภ์ อายุที่มากขึ้น เป็นต้น