ถามแพทย์

  • มีตกขาวปนเลือด ได้ยาปรับฮอร์โมนมาทานแล้ว ไม่ดีขึ้น

  •  Evejaa
    สมาชิก

    การทานยาปรับฮอร์โมนจะทำให้เกิดอาการตกขาวมีเลือดปนได้มั้ยคะ ตอนแรกตกขาวมีเลือดปนไปหาหมอเขาบอกว่าฮอร์โมนผิดปกติเลยให้ยาปรับฮอร์โมนมาทาน พอทานยาหมดแล้วหลังจาก 3 วันประเดือนก็มาค่ะ พอประเดือนหมดประมาณ 2 วันตกขาวปนเลือดกลับมาอีกค่ะ หนูจึงไปหาหมออีกเขาก็ให้ยาปรับฮอร์โมนหนูมาอีก แต่มันก็ยังไม่หายค่ะ อาการแบบนี้สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้างคะ

    Evejaa  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ Evejaa

    ในกรณีนี้อาจจะเรียกว่ามีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดได้จาก

    -เนื้องอกมดลูก

    -ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นหนองในแท้ หนองในเทียม

    -อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานอักเสบ อาจมีไข้ มีตกขาวผิดปกติ และปวดท้องน้อยร่วมด้วย

    -เนื้องอกหรือมะเร็งที่ปากมดลูก

    -การติดเชื้อที่มดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด 

    -ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เช่น แท้ง ท้องนอกมดลูก

    -ความผิดปกติของรังไข่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศผิดปกติ จึงมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน

    -ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิด

    ในกรณีนี้แนะนำพบสูตินรีแพทย์ หากรับประทานยาฮอร์โมนที่แพทย์จ่ายแล้วก็ยังมีเลือดออกผิดปกติ เพราะการเลือดออกทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือนเป็นภาวะผิดปกติ ต้องหาสาเหตุและแก้ไขค่ะ การรับประทานฮอร์โมอาจจะแค่ช่วยในระยะสั้นๆเพื่อหยุดอาการเลือดออกผิดปกติเท่านั้น แต่ถ้าสาเหตุยังอยู่ พอหยุดยาก็จะมีเลือดออกอีก แพทย์อาจตรวจภายใน ตรวจปัสสาวะ ตรวจการตั้งครรภ์ ร่วมกับทำอัลตราซาวน์หน้าท้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป 

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น งดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้างช่องคลอด ถ้ามีอาการซีดอ่อนเพลียจากเสียเลือดมาก ไข้สูง ตกขาวผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ