ถามแพทย์

  • มีตกขาวปนเลือด ไปหาหมอ บอกเป็นมดลูกอักเสบ ได้ยามาทาน อาการกลับมาเป็นอีก เสี่ยงเป็นโรคร้ายแรงไหม

  •  tbban
    สมาชิก

    เมือเดือนมี.ค.ได้มีตกขาวปนเลือดมา ไปหาหมอ หมอบอกว่ามดลูกอักเสบ ได้ยามากินแล้วปรากฎว่าตกขาวยังมีอยู่แต่เป็นตกขาวสีเขียวไม่มีเลือดปน ต่อมาช่วงเดือนพ.ค.อาการเดิมก็กลับมาไปหาหมออีกครั้ง กินยาแล้วก็ยังมีตกขาวแต่ไม่ปนเลือดนะคะเป็นตกขาวสีเขียว และตอนนี้ตกขาวก็ปนเลือดอีกแล้วค่ะ แบบนี้มีความเสี่ยงจะเป็นโรคร้ายแรงไหมคะ 

    สวัสดีค่ะ คุณ tbban,

                          การมีตกขาวปนเลือด รวมถึงตกขาวสีเขียว อาจเกิดจาก

                         - มดลูกอักเสบ ซึ่งมักทำให้มีปวดท้องน้อยร่วมด้วย รวมถึงเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ โดยเชื้อโรคอาจมาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรืออาจมาเชื้อในช่องคลอดเองก็ได้ ดังนั้น หากรักษาจนอาการหายไปแล้ว ก็อาจมีโอกาสกลับเป็นใหม่ได้อีก

                         - มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยปนมากับตกขาวได้ แต่ไม่น่าทำให้เกิดอาการตกขาวมีสีเขียว 

                         - มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

                         - การมีเลือดออกจากสาเหตุอื่นๆ และปนมากับตกขาว เช่น การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริม เป็นต้น 

                          หากยังคงมีตกขาวปนเลือดกลับมาเป็นอีก แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจอีกครั้ง ทั้งนี้ หากยังไม่ได้รับการตรวจภายใน แนะนำควรให้แพทย์ตรวจด้วยค่ะ หรือหากได้พบแพทย์เฉพาะทางและตรวจภายในแล้ว และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมดลูกอักเสบ ก็อาจต้องเริ่มรักษาใหม่อีกครั้งค่ะ เพราะโอกาสที่จะกลับเป็นอีกนั้น มีได้อยู่ดังกล่าวไปค่ะ ทั้งนี้ ควรมีเพศสัมพันธ์โดยปลอดภัยด้วย คือมีคู่นอนเพียงคนเดียว ไม่ส่ำส่อนทางเพศ และใช้ถุงยางอนรมัยป้องกันค่ะ