ถามแพทย์

  • อายุ 35 ปี หลังจากวิ่ง มีอาการหายใจไม่ทัน ชีพจรเต้นเร็วกว่าปกติเป็นชั่วโมง เคยตรวจมาแล้วปกติ ควรทำอย่างไร

  •  rock2rap
    สมาชิก

    อายุ 35 ก่อนหน้านี้ผมมีอาการ กรดไหลย้อน ลำไส้แปรปรวน เหมือนจะมีแพนิคร่วมด้วย ไป รพ. ตรวจ EKG เมื่อ 2 เดือนก่อน หมอแจ้งว่าหัวใจปกติ ไม่มีอะไร วันนี้ผมได้ไปออกกำลังกายครั้งแรก หลังจากป่วยมาด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง วื่งระยะแรกๆไม่มีปัญหา แต่พอเริ่มหายใจไม่ทัน จึงหยุดวิ่ง หลังจากนั้น หัวใจก็เต้นเร็วมาตลอดเป็นชั่วโมง ใช้เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ววัดได้ 100 ไม่ทราบว่า ผิดปกติหรือไม่ครับ เพราะปกตินั่งพัก ก็น่าจะกลับมาปกติที่ 60 - 70

    rock2rap  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณrock2rap

    ปกติแล้วชีพจรหรืออัตราการเต้นของหัวใจนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที

    การที่อัตราการเต้นของหัวใจขึ้นไปสูงกว่าปกตินั้น อาจจะเกิดจาก ภาวะชั่วคราวหลังออกแรงมากๆ หรือการตื่นเต้นตกใจ ถ้าได้พักแล้วกลับมาเป็นปกติเอง ก็ไม่น่าจะเป็นความผิดปกติอะไร

    สาเหตุที่ผิดปกติเช่น การทำงานของไทรอยด์มากผิดปกติก็คือภาวะไทรอยด์เป็นพิษ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจล้มเหลวจากสาเหตุต่างๆเช่นหัวใจโต หัวใจขาดเลือด โรคปอดเช่นมีหลอดลมตีบ หอบหืด การได้รับสารกระตุ้นบางชนิดเช่นยาที่มีส่วนผสมของยาเสพติด เป็นต้น

    แนะนำการไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมถ้ามีอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วกว่าปกติเกินชั่วโมงขึ้นไป หรือไม่ได้มีสาเหตุเช่นการออกแรงทางกายอย่างชัดเจน ซึ่งควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดหรือตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจต่อไป

    เบื้องต้นให้หยุดยาทุกชนิดที่ไม่จำเป็น งดการทำงานหนัก อยู่ในที่อากาศถ่ายเทดี ถ้ามีอาการใจสั่นมากเหมือนใจจะหยุดเต้น วูบ เจ็บแน่นหน้าอก หรือออกซิเจนในเลือดที่วัดจากปลายนิ้วได้น้อยกว่า 95% ควรรีบไปพบแพทย์