ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมาวันสุดท้าย 2 ม.ค. เริ่มทานยาคุม 4 ม.ค. แล้วมีเพศสัมพันธ์ 4-5, 11 ม.ค. จะท้องไหม

  •  Queenie Kiki
    สมาชิก
    ประจำเดือนมาวันสุดท้ายวันที่ 2 ม.ค เริ่มกินยาคุมแผงใหม่วันที่ 4 ม.ค แต่กินช้าไป 2 วัน ที่จริงจะต้องเริ่มกินยาคุมวันที่ 2 ค่ะ แล้ววันที่ 4 กับ 5 มีอะไรกับแฟนไม่ได้ป้องกันค่ะ เพราะคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงระยะปลอดภัย หาถุงไม่ทันจริงๆค่ะ เพิ่งกลับมาเจอกัน จากนั้นวันต่อๆมาก็ใส่ถุงค่ะ จนมาถึงวันที่ 11 ม.ค ได้นอนกับแฟน เป็นวันไข่ตกพอดี ใส่ถุงแต่ถุงขาดลงมาเลยค่ะ แต่เขาบอกว่าเสร็จของนอก กินยาคุมยาสมินแบบ 21 เม็ดค่ะ 7 วันที่ผ่านมากินไม่ค่อยตรงเลยค่ะ บางวันกินช้าไป 2-3 ชั่วโมง อย่างเมื่อวันที่ 11 ปกติกิน 20.30 แต่พอนอนกับแฟนเสร็จ เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าลืมกิน เลยคว้ามากินตอน 5 ทุ่มกว่าๆ ค่ะ คือแบบนี้จะท้องไหมคะ กินช้าคุมช้า กินไม่คอยตรงเวลา ผ่านมา 7 วัน แล้วนอนกับแฟนแต่ถุงขาด เสร็จข้างนอก เจอวันไข่ตกพอดี เครียดค่ะหมอ

    สวัสดีค่ะ คุณ Queenie Kiki,

                          หากเพิ่งเริ่มทานยาคุมกำเนิดเป็นแผงแรก โดยปกติต้องทานยาภายในไม่เกิน 5 วันนับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา ยาคุมจึงจะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที หากเลย 5 วันไปแล้ว ยาคุมจะยังไม่สามารถออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที ต้องทานต่อเนื่องไปอย่างน้อย 7 วันก่อน ดังนั้น หากมีเพศสัมพันธ์โดยที่ยังทานยาไปไม่ครบ 7 วัน โอกาสที่จะตั้งครรภ์ย่อมมีได้ค่ะ

                          แต่หากเป็นการทานยาคุมเป็นแผงต่อเนื่องมาจากแผงก่อน หากเว้นระยะมาเกิน 7 วัน ก่อนที่จะเริ่มทานแผงใหม่ โดยปกติ ต้องทานต่อเนื่องไปอย่างน้อย 7 วันก่อนเช่นกัน หากมีเพศสัมพันธ์ก่อนทานยาครบ 7 วัน โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็อาจมีได้

                         ส่วนการทานยาคุมกำเนิดไม่ตรงเวลา โดยทานในเวลาที่ต่างกันประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากนัก แต่หากมีการลืมทานยา มีการอาเจียนหลังทานยา หรือทานยาอื่นบางชนิดร่วมด้วย ประสิทธิภาพก็อาจลดลงได้มาก

                         ดังนั้น หากทานยาคุมกำเนิดครบ 21 เม็ด หากหลังจากนั้น 2-4 วัน ไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ