ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ป้องกันตลอด ประจำเดือนมาน้อย ตรวจแล้วไม่ตั้งครรภ์ มีอาการคัดตึงเต้านมและเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เกิดจากอะไร

  •  Wararat
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะเรามีพสพ.เมื่อเดือนพ.ค.วันที่31และอีกครั้งในวันที่3 มิ.ย. ค่ะ ป้องกันค่ะ (เป็นคนประจำเดือนมาไม่ค่อยนับอยู่แล้วค่ะที่ประจำเดือนจะมาประมาณวันที่27ค่ะ) แล้ววันที่20-25ได้มีเลือดออกจากช่องคลอดค่ะคล้ายประจำเดือนเพราะมาน้อยมากค่ะ ใส่ผ้าอนามัย1แผ่นทั้งวันยังไม่เต็มเลย (ไม่ได้กินยาคุม) เราเลยมีการตรวจครรภ์ในวันที่25ตอนเย็นขึ้น1ขีด แล้วเราได้มีการตรวจอีกวันที่7 ก.ค. ค่ะขึ้น1ขีด เรามีการตรวจหลายรอบมากค่ะประมาณ5-6รอบ แล้วในวันที่9เราไปฉีดยาคุมแบบ1เดือนมาค่ะ แล้วเราก็มีอาการเจ็บเต้าค่ะแบบเวลาจับหรือโดนแค่นิดเดียวก็เจ็บค่ะ แล้วในเดือนนี้ประจำเดือนเรายังไม่มาเลยค่ะ คือจะถามว่า 1.เลือดที่ออกมาเกิดจากอะไรค่ะ 2.เลือดที่ออกเป็นเลือดประจำเดือนมั้ย 3.ที่เราตรวจครรภ์ไปเชื่อถือได้ใช่ไหมคะ
    Wararat  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Wararat

    การมีเพศสัมพันธ์ถ้าได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกันเอาไว้ตลอดเลยนั้น โอกาสตั้งครรภ์มีได้น้อยกว่า 1-2%

    จากที่กล่าวมา ถ้าหลังการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย มีรอบเดือนที่มาตรงรอบเดือนมาแล้ว ก็น่าจะไม่มีการตั้งครรภ์ โดยปริมาณเลือดที่ออกมาในแต่ละรอบเดือนอาจแตกต่างกันไปได้ แต่หากมาตามรอบเดือน มาอยู่ประมาณ 2-7 วัน ก็น่าจะยังเป็นรอบเดือนตามปกติ

    ในกรณีนี้เลือดที่ออกมาอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมก็ได้เช่นกัน คิดถึงภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์น้อจากที่กล่าวมา แต่อย่างไรก็ตาม ควรยืนยันการตั้งครรภ์ให้แน่ชัด สามารถซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจได้เองเบื้องต้น ให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ หากให้ผลลบ แต่ยังมีความสงสัยหรือมีอาการผิดปกติต่างๆ ก็ควรไปยืนยันผลที่รพ.ต่อไป