Selenium (ซีลีเนียม)

Selenium (ซีลีเนียม)

Selenium (ซีลีเนียม) คือ แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ และนำมาใช้ทางการแพทย์ในบางกรณี เช่น รักษาภาวะขาด Selenium รักษาโรคความผิดปกติของต่อมไทรอยด์และระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

Selenium ที่ถูกนำมาใช้มีทั้งแบบรับประทานและแบบฉีด โดยร่างกายไม่สามารถสร้างสารนี้ขึ้นมาได้เอง แต่จะพบได้ในดินและในอาหารบางชนิด เช่น ธัญพืช เนื้อวัว อาหารทะเล เป็นต้น แม้อาจนำ Selenium มาใช้ประโยชน์ในการรักษาได้ แต่หากได้รับสารนี้มากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน ดังนั้น ควรใช้อาหารเสริม Selenium ในปริมาณและวิธีการที่แพทย์แนะนำเสมอ

1856 Selenium rs

เกี่ยวกับ Selenium

กลุ่มยา อาหารเสริม
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาหาซื้อได้เอง
สรรพคุณ รักษาภาวะขาด Selenium รักษาโรคความผิดปกติของต่อมไทรอยด์และระบบภูมิคุ้มกัน
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยาฉีด ยารับประทาน

คำเตือนในการใช้ Selenium

  • หากแพ้ Selenium หรือเคยแพ้ยาที่มีสารประกอบใกล้เคียงกัน ไม่ควรใช้อาหารเสริมชนิดนี้
  • ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังใช้ Selenium อยู่ เพราะอาหารเสริมชนิดนี้อาจทำให้ผลการตรวจบางอย่างคลาดเคลื่อนได้
  • ผู้ที่กำลังฟอกไต เป็นโรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็งผิวหนัง หรือมีภาวะขาดไทรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ Selenium
  • การใช้ Selenium ในปริมาณมากเกินไป หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  • หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่ควรใช้ Selenium เว้นแต่แพทย์จะแนะนำให้ใช้

ปริมาณในการใช้ Selenium

ภาวะขาด Selenium

ใช้ Selenium แบบรับประทาน แบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือแบบฉีดเข้าเส้นเลือดในปริมาณ 100-500 ไมโครกรัม/วัน

การใช้ Selenium

  • ใช้ Selenium ตามปริมาณที่กำหนดบนฉลากยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการรักษา การแพ้ยาหรือสารอื่น ๆ เพราะ Selenium อาจมีส่วนประกอบของสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้
  • หากใช้ยาหรืออาหารเสริมชนิดอื่นอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพราะยาบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายหากใช้ร่วมกับ Selenium
  • หากใช้ Selenium เกินปริมาณที่กำหนด ควรรีบไปพบแพทย์
  • หากต้องเข้ารับการผ่าตัดในระหว่างที่ใช้ Selenium ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าใช้อาหารเสริมชนิดนี้อยู่ เพราะอาจจำเป็นต้องหยุดใช้ Selenium ก่อนผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์
  • หากลืมใช้ Selenium ให้ใช้ทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้เวลาใช้ในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้รอบต่อไปโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณ
  • ห้ามใช้อาหารเสริม Selenium ของผู้อื่น และไม่ให้ผู้อื่นใช้ของตนเองเช่นกัน
  • เก็บบรรจุภัณฑ์ไว้ในที่ที่ไม่โดนแสงและความชื้น

ผลข้างเคียงจากการใช้ Selenium

การใช้ Selenium อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้อย่างหลากหลาย หากใช้ในปริมาณมากเป็นเวลานานก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ด้วย ดังนั้น หากเกิดความผิดปกติขึ้นในระหว่างที่ใช้ Selenium ให้หยุดใช้แล้วรีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนหากมีสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการแพ้หลังใช้ Selenium เช่น คัน หน้าบวม ปากบวม หายใจลำบาก เป็นต้น  

นอกจากนี้ การใช้ Selenium อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรูปแบบอื่นได้ เช่น

  • ผมร่วง เล็บเปราะ
  • วิงเวียนศีรษะ
  • คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
  • บวมช้ำง่าย เลือดออกง่าย
  • ผิวหนังแดง หรือเป็นโรคผิวหนังบางชนิด
  • ร่างกายอ่อนแอ หรือรู้สึกอ่อนเพลีย
  • ลมหายใจมีกลิ่นคล้ายกระเทียม การรับรสเปลี่ยนแปลงไป