Saxagliptin (แซกซ่ากลิปติน)

Saxagliptin (แซกซ่ากลิปติน)

Saxagliptin (แซกซ่ากลิปติน) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไดเพปทิดิลเพปทิเดส-4 ใช้เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 โดยยาจะออกฤทธิ์ช่วยเพิ่มปริมาณของสารอินครีติน ทำให้ร่างกายหลั่งสารอินซูลินเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหลังมื้ออาหาร ซึ่งจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ซึ่งผู้ป่วยควรใช้ยานี้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

เกี่ยวกับยา Saxagliptin

กลุ่มยา ยารักษาโรคเบาหวาน
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ Category B จากการศึกษาในสัตว์ ไม่พบความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์หรืออาจพบผลไม่พึงประสงค์ในสัตว์ แต่ยังไม่พบความเสี่ยงในมนุษย์เมื่อใช้ในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ รวมทั้งไม่มีหลักฐานทางการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงเมื่อใช้ในช่วงหลังเดือนที่สามเป็นต้นไปกลุ่มยา ยารักษาโรคเบาหวาน

2044 Saxagliptin rs

คำเตือนในการใช้ยา Saxagliptin

  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากแพ้ยาชนิดนี้ หรือแพ้ยารักษาโรคเบาหวานที่คล้ายกัน รวมถึงการแพ้ยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ เพราะยา Saxagliptin อาจมีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบว่าใช้ยานี้ ยาชนิดอื่น และสมุนไพรต่าง ๆ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดหรือทำทันตกรรม
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาและอาหารเสริมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะแพทย์อาจต้องปรับปริมาณยาให้เหมาะสม หรือเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
  • หากรับประทานยานี้อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานยาชนิดอื่น รวมทั้งวิตามินหรืออาหารเสริมใด ๆ ก็ตาม
  • แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์และภาวะที่กำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 1 โรคไต ภาวะตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะเลือดเป็นกรด รวมถึงผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • ความเครียดอาจส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ เช่น ความเครียดจากการเจ็บป่วย การติดเชื้อ การบาดเจ็บ การเข้ารับการผ่าตัด การออกกำลังกาย หรือการเปลี่ยนแปลงอาหารที่รับประทาน เป็นต้น ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หากระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงไป เพราะอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนปริมาณยา หรือแผนการรักษาที่ใช้อยู่
  • ไม่ควรขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ใช้สายตาหรือต้องตื่นตัวอยู่ตลอดในระหว่างที่รับประทานยาชนิดนี้ จนกว่าจะแน่ใจว่าสามารถทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย เพราะยาอาจทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำจนผู้ป่วยรู้สึกง่วง เวียนหัว หรือเห็นภาพเบลอ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ อยู่ในช่วงให้นมบุตร หรือวางแผนจะมีบุตร ควรปรึกษาแพทย์ถึงผลกระทบของยาก่อนเริ่มรับประทาน

ปริมาณการใช้ยา Saxagliptin

โรคเบาหวานประเภทที่ 2
ตัวอย่างการใช้ยา Saxagliptin เพื่อรักษาโรคเบาหวานประเภทที่ 2 

ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 2.5 หรือ 5 มิลลิกรัม วันละครั้ง แต่หากรับประทานร่วมกับยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ CYP3A4/5 แบบเข้มข้น ควรใช้ปริมาณเพียง 2.5 มิลลิกรัม วันละครั้ง

การใช้ยา Saxagliptin  

  • ใช้ยาตามฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรับประทานยา ควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรให้เข้าใจก่อนใช้ยาเสมอ
  • ห้ามเริ่มรับประทานยา หยุดใช้ยา หรือเปลี่ยนแปลงปริมาณยาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • รับประทานยาอย่างต่อเนื่องให้ครบตามที่แพทย์แนะนำ และไม่หยุดใช้ยาด้วยตนเองแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
  • รับประทานยาชนิดนี้พร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ โดยควรกลืนยาลงไปทั้งเม็ด ไม่ควรแบ่งยา บดยา หรือเคี้ยวยา ยกเว้นว่าได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  • หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงเวลาของยาครั้งต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยารอบต่อไปโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยา
  • หากรับประทานยาเกินปริมาณที่แพทย์กำหนด ควรรีบไปปรึกษาแพทย์
  • หากรับประทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง ควรไปพบแพทย์
  • ควรรับประทานอาหารและออกกำลังกายตามที่แพทย์แนะนำไปด้วยในระหว่างที่ใช้ยา
  • ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างที่รับประทานยา
  • เข้ารับการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอในระหว่างที่รับประทานยา
  • ไม่ควรรับประทานยาของผู้อื่น และไม่ควรให้ผู้อื่นรับประทานยาของตนเอง
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง โดยหลีกเลี่ยงความชื้นและเก็บให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Saxagliptin

ยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงอย่างอาการปวดหัว ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ดังนั้น หากเกิดความผิดปกติขึ้นกับร่างกายในระหว่างใช้ยาชนิดนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง  

นอกจากนี้ ยา Saxagliptin อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ โดยหากผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้ ควรหยุดรับประทานยาและรีบไปพบแพทย์ทันที

  • มีอาการแพ้ยา เช่น ผิวซีดลง เป็นผื่นสีแดงหรือม่วง คัน หน้าบวม ปากบวม คอบวม หรือหายใจลำบาก เป็นต้น
  • มีอาการของโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง อย่างคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หัวใจเต้นเร็ว หรือปวดท้องช่วงบนอย่างมากจนลามไปถึงหลัง
  • มีอาการของโรคหัวใจ เช่น หายใจถี่ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ตัวบวม ขาบวม หรือเท้าบวม เป็นต้น
  • มีอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น เหงื่อออกมากอย่างกะทันหัน ตัวสั่น เวียนศีรษะ หน้ามืด อ่อนเพลีย เห็นภาพเบลอ เป็นต้น
  • มีอาการปวดหรือแสบเมื่อปัสสาวะ
  • เป็นโรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกัน อย่างโรคบุลลัสเพมฟิกอยด์
  • ปวดบริเวณข้อต่อในร่างกายอย่างต่อเนื่องหรือปวดอย่างรุนแรง