ภาวะโซเดียมในเลือดสูง (Hypernatremia)

ความหมาย ภาวะโซเดียมในเลือดสูง (Hypernatremia)

Hypernatremia หรือภาวะโซเดียมในเลือดสูง เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณโซเดียมในเลือดเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งโซเดียมนั้นมีความสำคัญต่อร่างกายหลายด้าน เช่น ควบคุมปริมาณของน้ำในเซลล์ภายในร่างกายให้สมดุล ช่วยด้านการทำงานของกล้ามเนื้อและหัวใจ เป็นต้น แต่เมื่อโซเดียมในเลือดสูงอาจส่งผลให้มีอาการกระหายน้ำมากกว่าปกติ อ่อนเพลีย หรือชักเกร็ง ส่วนใหญ่ภาวะนี้เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ดื่มน้ำน้อยเกินไป หรือร่างกายเสียน้ำเป็นปริมาณมาก หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีผลกระทบต่อสมองและเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

1777 Hypernatremia rs

อาการของภาวะโซเดียมในเลือดสูง

อาการที่พบได้บ่อยของภาวะ Hypernatremia คือ ผู้ป่วยจะกระหายน้ำมากกว่าปกติ แต่บางครั้งอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น

  • ปัสสาวะน้อยผิดปกติ
  • ร่างกายอ่อนแรง ง่วงซึม
  • หงุดหงิดง่าย
  • ปากแห้ง ตาแห้ง
  • สับสน มึนงง ปวดหัว
  • หายใจเร็วกว่าปกติ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • สำหรับเด็กทารก มักมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง หงุดหงิดง่ายผิดปกติ ร้องกวน งอแง หรือง่วงซึม
  • ในกรณีที่มีอาการรุนแรง อาจเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุกหรือหดเกร็ง และชัก

ภาวะ Hypernatremia อาจเกิดขึ้นได้ทั้งอย่างเฉียบพลันและเรื้อรัง อีกทั้งยังเสี่ยงเกิดอาการแทรกซ้อนในรายที่มีอาการรุนแรงด้วย ผู้ป่วยจึงควรสังเกตความผิดปกติของตนเองอยู่เสมอ และควรไปพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่เข้าข่ายภาวะนี้ เพราะจะช่วยให้การวินิจฉัยและการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น

สาเหตุของภาวะโซเดียมในเลือดสูง

ภาวะ Hypernatremia เป็นผลจากร่างกายเสียน้ำเป็นปริมาณมากหรือได้รับโซเดียมมากเกินไป จึงทำให้ระดับน้ำและโซเดียมในร่างกายไม่สมดุล ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง
  • การดื่มน้ำในปริมาณน้อยจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • การเสียน้ำออกจากร่างกายเป็นปริมาณมาก เช่น เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย ท้องเสีย หรืออาเจียนอย่างหนัก เป็นต้น
  • การมีอายุเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้ความอยากอาหารและการดื่มน้ำลดลง
  • การใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาขับปัสสาวะที่อาจกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำออกมาในปริมาณมากผ่านการปัสสาวะ
  • โรคหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อระดับโซเดียมในเลือด เช่น โรคไต โรคตับ โรคเบาหวาน เป็นต้น
  • ผิวหนังได้รับความเสียหายจากความร้อนจนอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้
  • ทารกได้รับนมแม่ไม่เพียงพอหรือดื่มนมผงที่มีส่วนผสมของโซเดียมเป็นปริมาณมาก

การวินิจฉัยภาวะโซเดียมในเลือดสูง

แพทย์สามารถวินิจฉัยภาวะ Hypernatremia ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • ตรวจร่างกายและซักประวัติเบื้องต้น แพทย์จะสอบถามประวัติการเจ็บป่วยและการรักษาที่ผ่านมา ประวัติการใช้ยา และปริมาณน้ำที่ดื่ม เพื่อตรวจหาภาวะขาดน้ำ รวมทั้งตรวจหาอาการผิดปกติและโรคที่เกี่ยวข้อง
  • ตรวจเลือดหรือตรวจปัสสาวะ ตรวจหาว่าระดับโซเดียมในเลือดมีปริมาณเท่าใด อยู่ในระดับปกติหรือไม่ เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินอาการและการรักษาได้อย่างเหมาะสม
  • ตรวจการทำงานของระบบประสาท ภาวะ Hypernatremia อาจมีผลกระทบต่อสมอง จึงต้องมีการตรวจเกี่ยวกับระบบประสาทต่าง ๆ ด้วย เช่น การตอบสนองต่อแสงของดวงตา การทดสอบความจำ เป็นต้น

การรักษาภาวะโซเดียมในเลือดสูง

การรักษาจะเน้นไปที่การทำให้ระดับโซเดียมในเลือดกลับมาอยู่ในสภาวะสมดุล โดยแพทย์จะพิจารณาจากสาเหตุและความรุนแรงของอาการ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งหากเป็นอาการที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วกว่าแบบเรื้อรัง

โดยการรักษาภาวะ Hypernatremia มีดังนี้

  • การดูแลอาการด้วยตนเอง หากอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้โดยดื่มน้ำเปล่า เพื่อช่วยให้ระดับของเหลวและโซเดียมในร่างกายกลับมาสู่สภาวะสมดุล หรือหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะ Hypernatremia เช่น งดกิจกรรมที่ทำให้เสียเหงื่อ งดใช้ยาขับปัสสาวะที่ทำให้ร่างกายเสียน้ำในปริมาณมาก เป็นต้น
  • การรักษาโดยแพทย์ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์อาจให้น้ำเกลือเข้าทางกระแสเลือดโดยตรง และคอยติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดโดยการตรวจเลือดหรือตรวจปัสสาวะ จนกว่าปริมาณโซเดียมและของเหลวในเลือดจะกลับสู่สภาวะสมดุล และในบางกรณีอาจต้องรักษาโรคหรืออาการผิดปกติต่าง ๆ ที่เป็นต้นเหตุนำไปสู่ภาวะนี้ด้วย

ภาวะแทรกซ้อนของภาวะโซเดียมในเลือดสูง

โดยปกติแล้ว ผู้ป่วย Hypernatremia นั้นจะมีอาการไม่รุนแรง สามารถดูแลตนเองจนหายดีได้ แต่บางกรณีที่ป่วยรุนแรง อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสมองได้ เช่น

  • มีเลือดออกในสมอง เป็นภาวะที่หลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไปสะสมและทำลายเนื้อเยื่อสมอง มักเป็นอาการแทรกซ้อนจากภาวะ Hypernatremia แบบเฉียบพลัน ส่งผลให้ผู้ป่วยหมดสติ เป็นอัมพาต หรือสูญเสียความสามารถในด้านต่าง ๆ เช่น การทรงตัว การกลืน เป็นต้น
  • สมองบวม เป็นภาวะที่มีของเหลวส่วนเกินสะสมในสมอง มักเป็นอาการแทรกซ้อนจากภาวะ Hypernatremia แบบเรื้อรัง ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียความทรงจำ ชักเกร็ง หรือหมดสติได้

ทั้งนี้ หากมีอาการรุนแรงและไม่สามารถรักษาได้ทันการณ์ อาจเป็นอันตรายถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้เช่นกัน

การป้องกันภาวะโซเดียมในเลือดสูง

การป้องกันภาวะ Hypernatremia นั้น ทำได้โดยสังเกตความผิดปกติของตนเอง และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น

  • ดื่มน้ำเพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายเสียไปหากรู้สึกกระหายน้ำหรือเสียเหงื่อในปริมาณมาก
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูงในปริมาณมาก เช่น ไส้กรอก แฮม อาหารสำเร็จรูป ซอสปรุงรสต่าง ๆ เป็นต้น รวมทั้งควรศึกษาฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับโซเดียมเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป
  • ผู้ที่ใช้ยาขับปัสสาวะควรระมัดระวังและปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง
  • หากสงสัยว่าตนเองมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อภาวะ Hypernatremia ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม