Doxorubicin (ด็อกโซรูบิซิน)

Doxorubicin (ด็อกโซรูบิซิน)

Doxorubicin (ด็อกโซรูบิซิน) เป็นยาเคมีบำบัดหรือยารักษามะเร็งที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง นำมาใช้รักษามะเร็งหลากหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และมะเร็งรังไข่ เป็นต้น นอกจากนี้ อาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วย

ยา Doxorubicin มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ

1627 Doxorubicin resized

เกี่ยวกับยา Doxorubicin

กลุ่มยา ยาเคมีบำบัด
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ 
สรรพคุณ ใช้รักษาโรคมะเร็งหลายชนิด
กลุ่มผู้ป่วย เด็ก ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยาฉีด

 

คำเตือนในการใช้ยา Doxorubicin

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ และแพ้ยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยา Doxorubicin หากผู้ป่วยมีการติดเชื้อที่ไม่ได้รักษา เป็นโรคตับรุนแรง หัวใจผิดปกติรุนแรง และหัวใจขาดเลือด
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากเป็นโรคตับ โรคไต มีการกดการทำงานของไขกระดูก เป็นโรคหัวใจ มีประวัติภาวะหัวใจวาย หรือเคยใช้ยาดอโนรูบิซิน ยาเอพิรูบิซิน และยาไมโตแซนโทรน
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากผู้ป่วยเคยใช้ยารักษามะเร็งหรือผ่านการฉายรังสีมาก่อน
  • การใช้ยา Doxorubicin อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคไขกระดูกหรือโรคลูคีเมียบางชนิดได้ในอนาคต ซึ่งผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงดังกล่าวด้วย
  • ระหว่างที่ใช้ยา Doxorubicin ห้ามผู้ป่วยรับวัคซีนใด ๆ โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ และหลีกเลี่ยงการรับวัคซีนเชื้อเป็น (Live Vaccine) เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง
  • ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับคนป่วยหรือผู้ที่ติดเชื้อในระหว่างที่ใช้ยานี้
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดไหลหรือบาดเจ็บ และใช้ความระมัดระวังในการโกนหนวดหรือแปรงฟันเพื่อป้องกันเลือดออก
  • ยาอาจผ่านเข้าสู่ร่างกายได้ ผู้ป่วยต้องระวังไม่ให้มือสัมผัสกับของเหลวจากร่างกายหรือพื้นผิวอื่น ๆ ส่วนผู้ที่ดูแลผู้ป่วยก็ต้องสวมถุงมือขณะทำความสะอาดร่างกายผู้ป่วยเช่นกัน และล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังถอดถุงมือ นอกจากนั้น ควรแยกซักเสื้อผ้าที่เปื้อนของเหลวออกจากเสื้อผ้าอื่น ๆ
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์ให้หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือเสี่ยงทำให้เด็กพิการแต่กำเนิด นอกจากนี้ ควรคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ระหว่างที่ใช้ยา และแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากผู้ป่วยตั้งครรภ์ในช่วงที่ใช้ยา โดยทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ใช้ยานี้ต้องหลีกเลี่ยงการมีบุตรอย่างน้อย 6 เดือนหลัังจากใช้ยาครั้งสุดท้าย
  • ยา Doxorubicin อาจส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศหรือการมีบุตร หากพบปัญหาดังกล่าวให้ไปปรึกษาแพทย์
  • ห้ามให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ เพราะยาอาจเป็นอันตรายต่อเด็ก

ปริมาณการใช้ยา Doxorubicin

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

มะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจาย

ผู้ใหญ่ ฉีดยาปริมาณ 60-75 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/ครั้ง ทุก 3 สัปดาห์ ใช้ร่วมกับยาซัยโคลฟอสฟาไมด์โดยหยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และเจือจางในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.9 เปอร์เซ็นต์ หรือกลูโคส 0.5 เปอร์เซ็นต์

โรคเอดส์ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งคาโปซิซาร์โคมา
ผู้ใหญ่ ให้ฉีดยาที่เป็นตัวยารูปแบบออกฤทธิ์นานในปริมาณ 20 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร โดยหยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำเป็นเวลา 30 นาที/ครั้ง ทุก 2-3 สัปดาห์

เด็ก ฉีดยาปริมาณ 35-75 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/วัน และฉีดซ้ำทุก 21 วัน หรือฉีดยาปริมาณ 20-30 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/สัปดาห์ หรือฉีดยาปริมาณ 60-90 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร โดยทุกปริมาณการใช้ยาให้หยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง 96 ชั่วโมง ทุก 3-4 สัปดาห์

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

ผู้ใหญ่ ฉีดยาปริมาณ 50 มิลลิกรัม จากยาสารละลาย 1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร โดยสวนล้างกระเพาะปัสสาวะเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เดือนละ 1 ครั้ง

เด็ก ฉีดยาปริมาณ 35-75 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/วัน และฉีดซ้ำทุก 21 วัน หรือฉีดยาปริมาณ 20-30 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/สัปดาห์ หรือฉีดยาปริมาณ 60-90 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร โดยทุกปริมาณการใช้ยาให้หยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง 96 ชั่วโมง ทุก 3-4 สัปดาห์

มะเร็งรังไข่

ผู้ใหญ่  ฉีดยาที่เป็นตัวยารูปแบบออกฤทธิ์นานในปริมาณ 50 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร โดยหยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำเป็นเวลา 1 ชั่วโมง/ครั้ง ทุก 4 สัปดาห์

เด็ก ฉีดยาปริมาณ 35-75 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/วัน และฉีดซ้ำทุก 21 วัน หรือฉีดยาปริมาณ 20-30 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/สัปดาห์ หรือฉีดยาปริมาณ 60-90 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร โดยทุกปริมาณการใช้ยาให้หยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง 96 ชั่วโมง ทุก 3-4 สัปดาห์

มะเร็งในเด็ก

เด็ก ฉีดยาปริมาณ 35-75 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/วัน และฉีดซ้ำทุก 21 วัน หรือฉีดยาปริมาณ 20-30 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร/สัปดาห์ หรือฉีดยาปริมาณ 60-90 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวหนัง 1 ตารางเมตร โดยทุกปริมาณการใช้ยาให้หยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง 96 ชั่วโมง ทุก 3-4 สัปดาห์

การใช้ยา Doxorubicin

  • การใช้ยา Doxorubicin จะใช้ฉีดหรือหยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ โดยแพทย์หรือพยาบาลจะเป็นผู้ฉีดยาให้
  • อาจต้องใช้ยานี้ร่วมกับยารักษามะเร็งชนิดอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาสำหรับป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือการติดเชื้อจากการใช้ยาดังกล่าวด้วย
  • หากผู้ป่วยรู้สึกแสบ เจ็บ หรือมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดยา ให้แจ้งแพทย์หรือผู้ดูแลให้ทราบ
  • หากยาสัมผัสกับผิวหนัง ให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำอุ่น
  • ยานี้อาจทำให้เซลล์เม็ดเลือดที่ช่วยต่อต้านการติดเชื้อในร่างกายลดต่ำลง โดยผู้ป่วยอาจต้องได้รับการตรวจเลือดบ่อยครั้ง หรืออาจจำเป็นต้องเลื่อนการรักษาออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการตรวจ
  • หากลืมไปรับการฉีดยาตามนัดหมาย ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Doxorubicin

การใช้ยา Doxorubicin อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น มีแผลในปากหรือคอ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลงหรือเพิ่มขึ้น ปวดท้อง ท้องเสีย กระหายน้ำ เหนื่อย อ่อนเพลีย ผมร่วง เวียนศีรษะ เล็บมือหรือเล็บเท้าแยกออกจากเนื้อใต้เล็บ คันตา ตาแดง ตาบวม ตาแฉะ ระคายเคืองตา เจ็บตา มีอาการเจ็บ แสบ หรือชาที่มือและเท้า ปัสสาวะมีสีแดงเป็นเวลา 1-2 วันหลังได้รับยา เป็นต้น ทั้งนี้ หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์ให้แพทย์ทราบ

นอกจากนี้ หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา Doxorubicin ดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที

  • อาการแพ้ยา เช่น หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม คอบวม หรือลมพิษ เป็นต้น
  • อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการฉีดยา ได้แก่ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ เหงื่อออก ปวดศีรษะ แน่นหน้าอก ปวดหลัง หน้าบวม และมีปัญหาการหายใจ
  • ปวด พุพอง หรือเป็นแผลที่ผิวหนังบริเวณที่ฉีดยา
  • ประจำเดือนขาด
  • หัวใจผิดปกติ อาจมีอาการบางอย่าง เช่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่อิ่ม เท้าหรือขาบวม เป็นต้น
  • เลือดออก หรือเกิดรอยช้ำง่าย มีจุดแดงหรือม่วงใต้ผิวหนัง
  • ชัก