Cisplatin (ซิสพลาติน)

Cisplatin (ซิสพลาติน)

Cisplatin (ซิสพลาติน) คือ ยาที่ใช้รักษาโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งอัณฑะ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น โดยใช้เป็นยาฉีดเข้าทางหลอดเลือด อาจใช้ร่วมกับการรักษาอย่างอื่นเพื่อชะลอหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็ง นอกจากนี้ อาจนำมาใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

1859 Cisplatin rs

เกี่ยวกับยา Cisplatin

กลุ่มยา ยาเคมีบำบัด
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ 
สรรพคุณ ชะลอหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งบางชนิด
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยาฉีด

คำเตือนในการใช้ยา Cisplatin

  • ผู้ที่แพ้ยาชนิดนี้ แพ้ยาชนิดอื่น แพ้อาหาร หรือแพ้สารใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เพราะยาอาจมีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการรักษาหรือปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ เช่น มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไต มีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน เป็นโรคไขกระดูก เป็นต้น
  • ก่อนใช้ยาชนิดนี้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน และอาหารเสริมที่กำลังใช้อยู่ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้หากใช้ร่วมกัน
  • การฉีดวัคซีนบางชนิดในระหว่างที่ใช้ยานี้อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อและผู้ที่กำลังรับประทานยาต้านโปลิโอ
  • ผู้ป่วยบางรายอาจมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทอย่างถาวรหลังจากใช้ยาชนิดนี้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนใช้ยา
  • หากผู้ป่วยเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุ อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงมากยิ่งขึ้น
  • ยาชนิดนี้อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา หรือสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ควรใช้ยาคุมกำเนิดที่มีมาตรฐานร่วมด้วยในระหว่างที่ใช้ยาชนิดนี้หรือหลังจากหยุดใช้ยาไปแล้วระยะหนึ่ง
  • ยา Cisplatin อาจเข้าสู่ร่างกายของทารกผ่านทางน้ำนมของมารดาได้ ดังนั้น หากอยู่ในช่วงให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้
  • ยาชนิดนี้อาจมีผลต่อการสร้างอสุจิในเพศชาย ผู้ป่วยจึงควรใช้ยาคุมกำเนิดสำหรับเพศชายในขณะที่ใช้ยานี้หรือหลังจากหยุดใช้ยาไปแล้วระยะหนึ่ง

ปริมาณในการใช้ยา Cisplatin

ยา Cisplatin มีใช้รูปแบบเดียว คือ ฉีดยาเข้าทางเส้นเลือด โดยปริมาณการใช้ยาจะแตกต่างกันไปตามโรคที่รักษา ดังนี้

มะเร็งรังไข่ระยะแพร่กระจาย

ผู้ใหญ่

  • หากใช้ยานี้เพียงอย่างเดียวจะใช้ในปริมาณ 100 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร/รอบ ผสมด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์หรือกลูโคส 0.9 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้ตั้งแต่วันแรกของการให้ยาเคมีบำบัด และแต่ละรอบควรห่างกัน 4 สัปดาห์
  • หากใช้ร่วมกับไซโคลฟอสต์ฟาไมด์จะใช้ในปริมาณ 75-100 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร/รอบ โดยใช้ตั้งแต่วันแรกของการให้ยาเคมีบำบัด และแต่ละรอบควรห่างกัน 4 สัปดาห์

มะเร็งอัณฑะระยะแพร่กระจาย

ผู้ใหญ่

ใช้ยาปริมาณ 20 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร ใช้วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน/รอบ

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ระยะลุกลาม

ผู้ใหญ่

  • ใช้ยาปริมาณ 50-70 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร/รอบ แต่ละรอบควรห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการรักษาแบบรังสีบำบัดหรือเคมีบำบัด
  • สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก ก่อนรักษาอาจใช้ยาปริมาณ 50 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร/รอบ แต่ละรอบควรห่างกัน 4 สัปดาห์

การใช้ยา Cisplatin

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในขณะที่ใช้ยาชนิดนี้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากใช้ยา Cisplatin อยู่ เพราะแพทย์อาจตรวจการได้ยินทั้งก่อนและระหว่างใช้ยา หรืออาจต้องตรวจเลือดเพิ่มเติม
  • หากใช้ยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรืออาการแย่ลง ให้รีบไปพบแพทย์
  • หากรู้สึกไม่อยากอาหาร ปวดท้อง หรือท้องเสียระหว่างที่ใช้ยาชนิดนี้ ควรไปปรึกษาแพทย์
  • ควรดื่มน้ำมากขึ้นและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการบริโภคเครื่องดื่มและอาหาร
  • ระหว่างที่ใช้ยาอาจมีภาวะเลือดออกง่าย ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น งดเล่นกีฬา เปลี่ยนไปใช้เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าแทนมีดโกน เปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นแบบนุ่ม เป็นต้น
  • ยาชนิดนี้มีผลทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อได้ง่าย จึงควรป้องกันการติดเชื้อด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ล้างมือให้สะอาด ไม่เข้าใกล้ผู้ที่เป็นหวัดหรือเป็นโรคติดต่อ เป็นต้น

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Cisplatin

การใช้ยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล หรือบางรายก็อาจไม่ปรากฏอาการใด ๆ แต่หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างใช้ยา ควรไปปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะหากมีสัญญาณของอาการแพ้ เช่น คัน ไอ หายใจถี่ หน้าบวม เป็นต้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อีกทั้งยาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงต่อสมองได้ หากมีอาการสับสน การมองเห็นผิดปกติ ปวดหัวอย่างรุนแรง หรือชัก ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเช่นกัน ส่วนผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่พบได้บ่อย คือ มีอาการปวด บวม แสบ หรือระคายเคืองบริเวณที่ถูกฉีดยา รู้สึกเหนื่อย ไม่ค่อยรับรู้รสชาติ หรือผมร่วง  

นอกจากนี้ อาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้จากการใช้ยา Cisplatin ดังนี้

  • มีอาการของภาวะติดเชื้อ เช่น เป็นไข้ ไอ หนาว แผลไม่หาย ปัสสาวะแล้วรู้สึกเจ็บ เป็นต้น
  • มีภาวะขาดแร่ธาตุ โดยมีอาการ เช่น สับสน ปวดกล้ามเนื้อ ท้องเสีย ชัก เป็นต้น
  • มีปัญหาในการคิดและพูด มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป
  • เหนื่อยและอ่อนเพลียอย่างหนัก
  • เวียนหัวอย่างมาก หรืออาจถึงขั้นหมดสติ
  • อาเจียน ท้องร่วง
  • ผิวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้ม
  • เกิดรอยช้ำตามร่างกาย หรือมีอาการเลือดออกผิดปกติ
  • หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว เจ็บหน้าอก
  • ได้ยินเสียงดังในหู หรือสูญเสียการได้ยิน
  • ร่างกายมีอาการชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีก