ถามแพทย์

  • ตกขาวแทบทุกวัน คันบางครั้ง ตอนกินยาคุมไมมีตกขาว เวลามีเพศสัมพันธ์จะมีกลิ่น รักษาอย่างไร

  •  minimal_334
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ พอดีว่าเป็นตกขาวแทบทุกวันเลยค่ะ ล้างทำความสะอาดและซับให้แห้งแล้วแต่ก็ยังเป็น บางครั้งมีอาการคันค่ะ เมื่อประมาณปีที่แล้วเคยทานยาคุมรายเดือนอาการตกขาวหายไป แต่พอเลิกทานก็เป็นตกขาวเหมือนเดิม ก่อนทานยาคุมก็เป็นแบบนี้ค่ะ (ตอนทานยาคุมรายเดือนเพราะต้องการป้องกันการตั้งครรภ์และใช้ถุงยางอนามัยค่ะ)

    แต่ปัจจุบันมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สวมใส่ถุงยางและไม่ได้ทานยาคุม(ตอนมีเพศสัมพันธ์มีตกขาวและอวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็นด้วยค่ะ) แต่ไม่มีเพศสัมพันธ์ประมาณเดือนกว่าๆแล้ว แต่ตกขาวก็ยังเป็นตามข้างต้นที่กล่าวมา 

    อยากทราบวิธีรักษาและแนะนำค่ะ 

    สวัสดีค่ะ คุณ minimal_334,

                          หากมีตกขาวแทบทุกวัน ร่วมกับมีกลิ่นเหม็น มีอาการคันบางครั้ง แต่ไม่ได้คันมาก และไม่มีปวดหรือแสบช่องคลอด ไม่มีปวดท้องน้อย ก็น่าจะเกิดจากมีการอักเสบของช่องคลอดจากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis) ซึ่งปัจจัยที่อาจทำให้เกิด ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียชนิดดี (lactobacilli bacteria) ลดลงจากสาเหตุต่างๆ เช่น ช่องคลอดมีความเป็นด่างจากการโดนหลั่งน้ำอสุจิบ่อยๆ หรือจากการสวนล้างช่องคลอดบ่อยไป หรือใช้สบู่หรือน้ำยาที่มีความรุนแรง หรือเกิดจากการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อบ่อยๆ การมีเพศสัมพันธ์มากกว่า 1 คน หรือมีการเปลี่ยนคู่นอน แต่ไม่จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะฝ่ายชายจะไม่ได้ติดเชื้อชนิดนี้ไปด้วย

                           ทั้งนี้ หากอาการเกิดขึ้นในช่วงมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย ก็อาจเกิดจากปัจจัยที่มีการหลั่งน้ำอสุจิเข้าช่องคลอดบ่อยๆ ได้ค่ะ ส่วนในช่วงที่ทานยาคุมกำเนิด หากได้ใส่ถุงยางอนามัย น้ำอสุจิก็ไม่ได้เข้าสู่ช่องคลอด จึงไม่มีอาการค่ะ 

                           อย่างไรก็ตาม หากต่อมา ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีก แต่อาการยังคงเป้นต่อเนื่อง ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าเกิดจากสาเหตุใด หากเกิดจากเหตุดังกล่าว การทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ ก็จช่วยรักษาได้ เช่น เมโทรนิดาโซล (metronidazole), คลินดามัยซิน (clindamycin) เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อทานยา อาการก็จะหายไปได้ แต่ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก เมื่อมีปัจจัยต่างๆ เกิดขึ้นค่ะ