ถามแพทย์

  • หลังหยุดยาคุม มีเพศสัมพันธ์แล้วมีเลือดออกกระปริดกระปรอย มีอาการหน้ามืด จะมีโอกาสท้องไหม

  •  Beam Pasinee
    สมาชิก
    ประจำเดือนในเดือนมีนามาวันที่ 24 (ก่อนหน้านี้กินยาคุมมาตลอดทุกเดือนแล้วเดือนเมษาหยุดกิน) วันที่3 มีเพศสัมพันธ์ ปล่อยข้างนอก แล้ววันที่8-11มีเลือดออกเล็กน้อยแค่กระปริบกระปอย วันที่12 มีเพศสัมพันกันอีกทีปล่อยข้างนอก แล้วพอถึงกำหนดประจำเดือนมาแต่ไม่มา และวันที่29 ก็มีเพศสัมพันธ์และมีการปล่อยข้างนอกเหมือนเดิม (ทุกครั้งที่ปล่อยข้างนอกค่อนข้างมั่นใจ) อยากทราบว่า เลือดออกเมื่อวันที่8 เป็นผลข้างเคียงจากการหยุดกินยาคุมหรือไม่ แล้วทำไมเมนถึงเลื่อนเกี่ยวกันกับเลือดออกวันที่8ไหม และตั้งแต่ประจำเดือนหายก็รู้สึกหน้ามืดเมื่อทำอะไรเร็วๆ หรือเดินอยู่แล้วหน้ามืด มันเกี่ยวกันไหม ที่ประจำเดือนเลื่อนมีโอกาสท้องไหม หรือยังไง ทั้งเดือนไม่ค่อยมีอาการเครียด อยากทราบจริงค่ะหมอช่วยตอบที
    Beam Pasinee  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณBeam Pasinee

    การมีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนที่ไม่ใช่ประจำเดือนนั้นอาจจะมีสาเหตุได้จากหลายๆอย่างค่ะ เช่นเป็นผลข้างเคียงจากการหยุดกินยาคุม ซึ่งมักเกิดแค่ในช่วงประมาณ 1 เดือนแรก และร่างกายควรจะกลับมาเป็นปกติ สาเหตุอื่นๆเช่นเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ ซึ่งหลังจากหยุดกินยาคุม อาจกลับมามีการตกไข่ได้ พอมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ถึงแม้จะหลั่งนอกนั้น ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงถึง 20% ค่ะ

    สาเหตุอื่นๆด้านนรีเวชเช่นมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ ฮอร์โมนจากรังไข่ที่สร้างมาอย่างไม่สมดุล หรือมีการติดเชื้อของมดลูกหรือปากมดลูก เป็นต้น

    ดังนั้นหากประจำเดือนเลื่อนไปไม่มาตามรอบเดือน เลื่อนไปเกิน 35 วัน ควรซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจยืนยัน ให้ผลบวกได้ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ หากให้ผลลบ แต่ประจำเดือนก็ยังไม่มา และมีเลือดออกกระปริดกระปรอยเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมค่ะ