เอพิซาแบน (Apixaban)

เอพิซาแบน (Apixaban)

Apixaban (เอพิซาแบน) เป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดจากภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation) หรือหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าหรือข้อสะโพกเทียม รักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันบางชนิด เช่น ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึก (Deep Vein Thrombosis: DVT) และภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism: PE) และช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดซ้ำ

เอพิซาแบน (Apixaban)

เกี่ยวกับยา Apixaban

กลุ่มยา ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ ป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ โรคหลอดเลือดสมอง และลิ่มเลือดอุดตันจากภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว และรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดดำส่วนลึกและโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ
รูปแบบของยา ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร Category B จากการศึกษาในสัตว์ ไม่พบความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์หรืออาจพบผลไม่พึงประสงค์ในสัตว์ และยังไม่พบความเสี่ยงในมนุษย์เมื่อใช้ในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ รวมทั้งไม่มีหลักฐานทางการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงเมื่อใช้ในช่วงหลังเดือนที่สามเป็นต้นไป

คำเตือนในการใช้ยา Apixaban

ข้อควรทราบเพื่อความปลอดภัยก่อนการใช้ยา Apixaban มีดังนี้

  • แจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบหากมีอาการแพ้ยา Apixaban หรือมีอาการแพ้สารอื่น ๆ ในตัวยา โดยผู้ป่วยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับส่วนประกอบของยา Apixaban
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรือสมุนไพรทุกชนิดที่ผู้ป่วยกำลังใช้อยู่ เพราะยาบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยานี้จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง หรืออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออกอย่างรุนแรงจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 80 ปี ผู้ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 60 กิโลกรัม ผู้ที่ป่วยด้วยโรคตับ โรคไต กลุ่มอาการต้านฟอสโฟลิพิด ภาวะเลือดออกผิดปกติ ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติบางชนิด หกล้มหรือได้รับบาดเจ็บบ่อย หรือเป็นผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดหรือได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีอาการของภาวะเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกในสมอง เลือดออกในทางเดินอาหาร  เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล เลือดไหลจากช่องคลอด มีประจำเดือนมากผิดปกติ ปัสสาวะเป็นเลือด อุจจาระมีเลือดหรือมีลักษณะคล้ายยางมะตอย ไอหรืออาเจียนออกมาเป็นเลือดหรือเป็นสีน้ำตาลคล้ำหรือมีเลือดไหลไม่หยุด เป็นต้น
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังวางแผนตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากยา Apixaban อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดไหลมากผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์และระหว่างคลอดบุตร
  • หากอยู่ในระหว่างการใช้ยา Apixaban ผู้ป่วยไม่ควรให้นมบุตร
  • ผู้ที่ผ่านการเจาะนํ้าไขสันหลังซ้ำหลายครั้ง เคยรับการหัตถการต่าง ๆ บริเวณไขสันหลัง มีความผิดปกติบริเวณไขสันหลังแต่กำเนิดจากพันธุกรรม ใส่สายสวนบริเวณไขสันหลัง และผู้ที่ใช้ยาในกลุ่มเอ็นเสด ยาแอสไพรินหรือยาไอบูโพรเฟน อาจเสี่ยงมีเลือดออกรอบไขสันหลังขณะใช้ยา Apixaban ซึ่งอาจส่งผลให้เป็นอัมพาตในระยะยาวหรือถาวรได้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบว่าอยู่ในช่วงการรับประทานยานี้ หากต้องเข้ารับผ่าตัดร่างกายหรือช่องปาก เนื่องจากผู้ป่วยอาจต้องหยุดรับประทานยาก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • หากมีอาการของการเกิดลิ่มเลือดบริเวณไขสันหลังอย่างอาการปวดหลัง ชา กล้ามเนื้ออ่อนแรงบริเวณร่างกายช่วงล่างหรือไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระได้ ควรเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด
  • ยา Apixaban อาจส่งผลให้เกิดภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร ซึ่งความเสี่ยงของการเกิดภาวะนี้อาจเพิ่มขึ้นหากผู้ป่วยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ดังนั้นผู้ป่วยจึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย
  • ผู้ป่วยควรระมัดระวังการใช้ของมีคมอย่างกรรไกรตัดเล็บหรือมีดโกน หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีอาการปะทะในระหว่างการใช้ยา Apixaban เพราะยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดภาวะเลือดไหลผิดปกติได้ และควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีเมื่อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณหัว เพื่อให้แพทย์ตรวจหาอาการเลือดออกภายในที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

ปริมาณการใช้ยา Apixaban

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยา Apixaban ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยาดังนี้

ป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (Venous Thromboembolism: VTE)

ตัวอย่างการใช้ยา Apixaban เพื่อป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 2.5 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน โดยเริ่มรับประทานหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าหรือการผ่าตัดข้อสะโพกเทียม 12–24 ชั่วโมง ผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าให้รับประทานยาเป็นเวลา 10–14 วันและผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาการผ่าตัดข้อสะโพกเทียมให้รับประทานยาเป็นเวลา 32–38 วัน ทั้งนี้ ปริมาณยาอาจปรับเปลี่ยนหรือหยุดการใช้ตามสภาวะร่างกายของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์

ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและลิ่มเลือดอุดตันจากภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วชนิดไม่มีความผิดปกติเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ (Non-Valvular Atrial Fibrillation)

ตัวอย่างการใช้ยา Apixaban เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและลิ่มเลือดอุดตันจากภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วชนิดไม่มีความผิดปกติเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 5 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน
  • ผู้สูงอายุ หากมีปัจจัย 2 จาก 3 อย่างนี้ คือ อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 80 ปี มีน้ำหนักต่ำกว่า 60 กิโลกรัมหรือมีค่าครีเอตินินมากกว่า 1.5 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ควรลดปริมาณการรับประทานยาเหลือ 2.5 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน

รักษาภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกและโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด

ตัวอย่างการใช้ยา Apixaban เพื่อรักษาภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกและโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด

  • ผู้ใหญ่ เริ่มรับประทานยาปริมาณ 10 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 7 วัน ก่อนจะปรับปริมาณยาเป็น 5 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน และเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำของโรคหลอดเลือดสมองและลิ่มเลือดอุดตันจากภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพลิ้วชนิดไม่มีความผิดปกติเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ ให้ผู้ป่วยรับประทานยาในปริมาณ 2.5 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน ตามด้วยการรับประทานยาต้านภาวะแข็งตัวของเลือดเป็นเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ปริมาณยาอาจปรับเปลี่ยนหรือหยุดการใช้ตามสภาวะร่างกายของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์

นอกจากนี้ผู้ที่รับประทานยาต้านเอนไซม์ CYP3A4 และ พี-ไกลโคโปรตีน (P-gp) ชนิดรุนแรง ให้ปรับลดปริมาณการรับประทานยาในแต่ละครั้งลงครึ่งหนึ่ง หากรับประทานยาปริมาณมากกว่า 2.5 มิลลิกรัม 2 ครั้ง/วัน

การใช้ยา Apixaban

เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • ควรรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์หรือคำแนะนำบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด ผู้ป่วยไม่ควรปรับปริมาณยาเอง หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
  • ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพราะหากหยุดการใช้ยาอย่างกะทันหัน ความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดหรือภาวะหลอดเลือดสมองอาจเพิ่มขึ้นได้
  • รับประทานยานี้พร้อมอาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้
  • หากผู้ป่วยไม่สามารถกลืนยาได้ สามารถบดยาแล้วนำไปผสมกับน้ำสะอาดหรือน้ำแอปเปิลปริมาณ 30 มิลลิลิตร และควรดื่มให้หมดทันทีในครั้งเดียว
  • ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องให้อาหารทางสายยาง ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างระมัดระวัง หากไม่เข้าใจวิธีการควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชเพื่อความปลอดภัย
  • หากผู้ป่วยใช้ยาเกินปริมาณที่กำหนดอาจทำให้มีเลือดไหลผิดปกติ เกิดรอยช้ำ ปัสสาวะเป็นสีแดง น้ำตาลหรือชมพู อุจจาระเป็นสีแดง ดำ หรือมีลักษณะคล้ายยางมะตอย ไอหรืออาเจียนออกมาเป็นเลือดหรือเป็นสีน้ำตาลคล้ำ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีโดยนำบรรจุภัณฑ์ของยาติดตัวไปด้วย
  • หากผู้ป่วยลืมรับประทานยา ควรรับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้และรับประทานยาครั้งต่อไปตามช่วงเวลาเดิม ทั้งนี้ ผู้ป่วยห้ามเพิ่มปริมาณการรับประทานยาเป็น 2 เท่าเพื่อทดแทน
  • เก็บยาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม โดยควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความชื้น ความร้อน แสงแดดและควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
  • ห้ามให้ผู้อื่นใช้ยานี้แม้จะมีอาการป่วยเหมือนกันก็ตาม

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Apixaban

การใช้ยา Apixaban อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ อย่างคลื่นไส้ เวียนศีรษะ เกิดรอยช้ำง่าย และอาจมีเลือดไหลเล็กน้อย แต่หากผลข้างเคียงมีอาการแย่ลงหรือมีอาการติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อรับการรักษา แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เช่น

  • มีเลือดออกในตาหรือตาแดง
  • กลืนลำบาก
  • บวมบริเวณเปลือกตา รอบดวงตา หน้า ริมฝีปากหรือลิ้น
  • ไอเป็นเลือด
  • เกิดรอยช้ำหรือรอยม่วงบนผิวหนัง
  • มีอาการสับสน
  • การตื่นตัวลดลง
  • เวียนหัว เป็นลม
  • เจ็บหรือแน่นหน้าอก
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • หายใจไม่อิ่มหรือหายใจลำบาก
  • มีผื่นคันหรือผื่นลมพิษ
  • บวมหรือเจ็บตามข้อต่าง ๆ
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง
  • ปัสสาวะเป็นเลือด
  • อุจจาระเป็นสีดำหรือมีลักษณะคล้ายยางมะตอย
  • ไม่มีแรงหรือเหนื่อยผิดปกติ