ถามแพทย์

  • เป็นภูมิแพ้และนอนดึก มีไอมา 2 สัปดาห์ ไม่มีไข้ จุกคอ แน่นอก ควรรอดูอาการหรือควรกลับไปหาหมอ

  •  Sakura Kiki
    สมาชิก

    มีอาการไอ ไม่มีไข้ ไม่ปวดหัว มีเสมหะเล็กน้อย หายใจรู้สึกคืดๆในปอดร่วมกับเหมือนมีอะไรจุกอยู่แถวๆคอและแน่นหน้าอก*บางครั้ง* ไอมาประมาณ2อาทิตแล้ว ยังไม่หาย

    สิ่งที่ทำแล้ว :  ดิฉันดื่มน้ำอุ่น ,กินยาแก้ไอ,น้ำผึ้งผสมมะนาว,ยาแก้แพ้,วิตามินCและB แต่ก็ยังไม่หาย

    - ส่วนตัวดิฉันเป็นภูมิแพ้และนอนดึกเป็นส่วนใหญ่เพราะต้องอ่านหนังสือ และไม่เคยมีประวัติสูบบุหรี่หรือไปอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม ควรรอดูอาการหรือควรไปพบแพทย์ดีคะ 

    Sakura Kiki  Sakura Kiki
    สมาชิก

    อายุ20ปีนะคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Sakura Kiki,

                        อาการไอมาประมาณ 2 สัปดาห์ โดยไม่มีไข้ อาจเกิดจาก

                        1. โรคหอบหืด อาการมักจะกำเริบขึ้นเมื่อโดนกระตุ้นจากสิ่งที่แพ้ เช่น เกสรดอกไม้ สะเก็ดผิวหนังสัตว์ ไรฝุ่น เป็นต้น รวมถึงอุณหภูมิอากาศที่เย็น การออกกำลังกาย หรือความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น บางรายอาจมีเฉพาะอาการไอได้  แต่ส่วนใหญ่มักมีอาการอื่นๆ ร่วมอีก เช่น หายใจลำบาก หายใจขัด แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงดังวี๊ดๆ หอบเหนื่อย เป็นต้น

                        2. ภูมิแพ้ชนิดแพ้อากาศ แต่นอกจากไอแล้ว ก็มักมีอาการคันจมูก คันคอ จาม มีน้ำมูกไหลร่วมด้วย โดยอาการจะเกิดเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ชนิดต่างๆ คล้ายๆ กับโรคหอบหืด

                        3. กรดไหลย้อน อาจทำให้เกิดอาการไอได้ จากการที่น้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาระคายเคืองบริเวณลำคอและอาจไหลลงสู่หลอดลม จึงกระตุ้นให้เกิดการไอ ซึ่งเมื่อนอนลง อาการอาจเป็นมากขึ้นได้ แต่มักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แสบร้อนกลางอก จุกแน่นลิ้นปี่ เรอบ่อย รู้สึกเปรี้ยวหรือขมที่ลำคอ มีน้ำลายในคอหรือมีเสมหะ รวมถึงทำให้รู้สึกจุกที่คอได้

                         4. หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน แต่จะมีอาการของไข้หวัดนำมาก่อน และต่อเนื่องด้วยอาการไอมาก ไอบ่อยและมักมีเสมหะมากร่วมด้วย อาการไออาจเกิดได้นานต่อเนื่องหลายสัปดาห์ 

                         5. วัณโรคปอด แต่จะมีไข้ น้ำหนักลด เบื่ออาหารร่วมด้วย

                         หากมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ก็น่าจะมีสาเหตุจากภูมิแพ้ที่เป็นอยู่ หรือจากโรคหอบหืดได้ แต่ทั้งนี้ หากมีอาการจุกคอและแน่นอกร่วมด้วย สาเหตุจากโรคกรดไหลย้อน ก็น่าจะเป็นไปได้

                          ในเบื้องต้น ควรดูแลตนเองแบบโรคภูมิแพ้และกรดไหลย้อนร่วมกัน ได้แก่ การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ที่น่าจะเป็นต้นเหตุ รวมถึง การหลีกเลี่ยงการโดนอากาศเย็นจัด ไม่ตากลม ไม่ตากฝน หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นโดยเฉพาะเวลากลางคืน ไม่อาบน้ำเย็นในช่วงกลางคืน ใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดหรือห่มผ้าให้อบอุ่นในตอนนอน นอกจากนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีฝุ่นละอองมาก หรือใส่หน้ากากป้องกัน ไม่สูบบุหรี่และไม่อยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ เป็นต้น รวมถึงดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เครียด เป็นต้น

                           สำหรับการดูแลแบบโรคกรดไหลย้อนนั้น ได้แก่ การเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด ไม่ทานอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ควรเคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมากเกินไป ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ รวมถึงชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ และไม่ควรทานอาหารก่อนนอนภายใน 2 ชั่วโมง ห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ ปวดประจำเดือน เป็นต้น  

                            หากอาการต่างๆ ยังไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางอายุรกรรม เพื่อตรวจและรักษาต่อไปค่ะ