ถามแพทย์

  • อายุ 18 ปี มีเริมที่ริมฝีปาก ซื้อยามาทาไม่ดีขึ้น วันนี้วันที่ 4 แล้ว ควรจะทำอย่างไร

  •  Thitipan Saijanholm
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะแพทย์ หนูอายุ 18 เคยเป็นเริมที่ปากมาประมาณ 2-3 ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นแผลที่แย่สุดค่ะ เมื่อเริ่มเป็นวันแรกหนูก็ใส่หน้ากากอนามัย(ไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุให้ตุ่มเริมที่ปากบวมพองกว่าเดิมไหม) หนูเลยไปซื้อยาชนิดทาภายนอกชื่อ Vilerm ทำตามขั้นตอนที่แพทย์สั่งทุกอย่าง พอเริ่มวันที่สองมา ตุ่มมันบวมพองขค้นมากกว่าเดิม แผลเหมือนโดนน้ำร้อนลวก และภายในวันนั้นตุ่มก็แตก เพราเผลอไปโดน และไม่ได้ใส่หน้ากากอานามัยด้วย วันที่3 แผลตุ่มที่ปากเริ่มแก้งและเป็นก่อนแข็ง มีรอยแดงๆเหมือนจะเป็นสเก็ดแผล วันที่4 หนูตื่มา แผลเหมือนวันที่3 พอทายาไปตามปกติกลับมีน้ำคล้ายๆหนองไหลออกมา หนูเลยเอาคอตตอนบัต มาซับๆ มันก็ยังมีน้ำใสๆออกมานิดหน่อย ล่าสุดที่พิมข้อความนี้คือการเป็นเริมวันที่4 แล้ว หนูอยากถามคำแนะนำจากแพทย์ค่ะ ว่าควรรักษาวิธีไหนให้มันหายเร็วๆดี แล้วหนูจะหายดีไหม อีกนานไหมถึงจะหายคะ

     สวัสดีคะคุณ Thitipan Saijanholm

    เรียนอย่างนี้นะค่ะ การติดเชื้อไวรัส ที่เป็นเริม จะทำให้มีตุ่มน้ำได้ค่ะ จริงค่ะ แต่อย่างไรก็ตามคงต้องแยกว่าไม่ใช่ว่าเป็นตุ่มน้ำที่เกิดจากการแพ้ยา หรือ เชื้อแบคทีเรียอย่างอื่นร่วมด้วยค่ะ 

    ตอนนี้ที่สำคัญคือ เรื่องของการตรวจค่ะ อาจจะต้องเอาตุ่มน้ำไปตรวจยืนยันก่อนนะค่ะ ว่าใช่หรือไม่ค่ะ

    1. เริม เป็นการติดเชื้อไวรัส ที่คนไข้จะด้วยตุ่มน้ำที่ริมฝีปาก ถ้าเป็นชนิดที่หนึ่งนะค่ะ หรือ ปัจจุบัน อาจจะมีเรื่องของชนิดที่สองร่วมด้วยได้ค่ะ การรักษาแนะนำเรื่องของการใช้ยาต้านไวรัส ทั้งชนิดกินและทาค่ะ ยาที่คุณซื้อมาเป็นยาต้านไวรัสแบบทาค่ะ
    2. การติดเชื้อแบคทีร่วม เป็นเรื่องที่พบได้ค่ะ ถ้ามีน้ำเหลือง หรือ เริ่มมีหนองอาจจะต้องพิจารณาเรื่องของกได้รับยาฆ่าเชื้อเพิ่มเติมค่ะ
    3. การแพ้ยา ซึ่งอาจจะยังต้องคิดถึงค่ะ
    4. ผื่นแพ้ เช่น ลิปสติก หรือ สารเคมีอื่นๆ ค่ะ 

    แนะนำพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมอีกครั้งค่ะ