ถามแพทย์

  • โรคหัวใจโตคืออะไร อันตรายไหม เคยตรวจเจอตอน 6-7 ปีที่แล้ว

  • สวัสดีค่ะ หนูชื่อพรนะคะ อายุ33ปีค่ะ พอดีช่วงที่คลอดลูกใหม่ๆ เมื่อ6-7ปีที่แล้วค่ะ อยากทำหมันค่ะ แต่หมอที่ทำคลอดมาตรวจแล้วบอกว่า หัวใจเต้นผิดปกติค่ะ หมอเลยให้ไปตรวจแบบแอคโค่(พิมพ์ภาษาอังกฤษไม่เป็นค่ะ) แล้วหมอที่ตรวจบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ ลิ้นหัวใจก็ไม่รั่ว แค่หัวใจโตเฉยๆ ซึ่งตอนนั้นหมอที่ตรวจก็ไม่ได้บอกรึว่าพูดอะไรเลย และตอนนั้นก็ไม่รู้ว่า หัวใจโต คืออะไร อันตรายไหม แต่เคยได้ยินว่า คนเป็นหัวใจโต จะเหนื่อยง่าย ทำอะไรนิดๆหน่อยๆก็เหนื่อย ซึ่งตอนนี้หนูเป็นอยู่ค่ะ เหนื่อยง่าย ใจสั่น ใจไม่ดี แน่นๆตรงหน้าอกค่ะ หนูต้องทำยังไงคะ (ถามแบบโง่ๆเลยค่ะ) ขอบคุณค่ะ
    พรทิพย์ อ่วมบุตร  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ พรทิพย์ อ่วมบุตร

    หัวใจโต เป็นภาวะที่หัวใจมีขนาดใหญ่กว่าปกติ เกิดจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ส่วนมากเกิดจากภาวะความดันโลหิตสูงหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคลิ้นหัวใจรั่ว โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ เป็นต้น

    อาการเช่นหายใจเหนื่อยหอบ รู้สึกอ่อนเพลีย น้ำหนักเพิ่ม ขาบวใจสั่น หรือหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ จากาอากรที่กล่าวมา น่าจะเป็นอาการของโรคหัวใจโตได้เช่นกัน ซึ่งแนะนำว่าถ้ามีอาการกำเริบเป็นบ่อยๆ ควรกลับไปพบแพทย์ที่ดูแลอีกครั้ง เพราะอาจต้องมีการตรวจการทำงานของหัวใจที่เรียกว่า echocardiogram หรือเรียกสั้นๆว่าเอคโค่อีกครั้งว่าหัวใจยังทำงานได้ใกล้เคียงคนปกติหรือไม่

    การรักษาเน้นตามสาเหตุ หากไม่มีสาเหตุชัดเจนอาจให้ยาเพื่อช่วยลดอาการเหนื่อยและน้ำคั่งเช่นยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิตและลดอัตราการเต้นของหัวใจ ยาลดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น ในขณะนี้งดการออกแรงหนักๆไปก่อน

    อ่านเพิ่มเติม

    https://www.pobpad.com/%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%82%E0%B8%95

    พรทิพย์ อ่วมบุตร  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ พรทิพย์ อ่วมบุตร

    หัวใจโต เป็นภาวะที่หัวใจมีขนาดใหญ่กว่าปกติ เกิดจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ส่วนมากเกิดจากภาวะความดันโลหิตสูงหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคลิ้นหัวใจรั่ว โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ เป็นต้น

    อาการเช่นหายใจเหนื่อยหอบ รู้สึกอ่อนเพลีย น้ำหนักเพิ่ม ขาบวใจสั่น หรือหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ จากาอากรที่กล่าวมา น่าจะเป็นอาการของโรคหัวใจโตได้เช่นกัน ซึ่งแนะนำว่าถ้ามีอาการกำเริบเป็นบ่อยๆ ควรกลับไปพบแพทย์ที่ดูแลอีกครั้ง เพราะอาจต้องมีการตรวจการทำงานของหัวใจที่เรียกว่า echocardiogram หรือเรียกสั้นๆว่าเอคโค่อีกครั้งว่าหัวใจยังทำงานได้ใกล้เคียงคนปกติหรือไม่

    การรักษาเน้นตามสาเหตุ หากไม่มีสาเหตุชัดเจนอาจให้ยาเพื่อช่วยลดอาการเหนื่อยและน้ำคั่งเช่นยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิตและลดอัตราการเต้นของหัวใจ ยาลดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น ในขณะนี้งดการออกแรงหนักๆไปก่อน

    อ่านเพิ่มเติม

    https://www.pobpad.com/%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%82%E0%B8%95