ถามแพทย์

  • แฟนเป็นแผลที่อวัยวะเพศ รักษาเองได้ไหม?

  •  zeegames
    สมาชิก
    เมื่อวานแฟนมาบอกค่ะว่าเป็นแผลที่อวัยวะเพศ คือดูๆแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ไม่ยอมไป พอจะมียาอะไรรักษาที่ซื้อได้ตามร้านขายยามั้ยคะ https://www.picz.in.th/images/2017/12/23/20171222_202038.jpg

     

    สวัสดีค่ะ คุณ zeegames,

                     แผลที่อวัยวะเพศชายดังกล่าว อาจเป็น

                     1. แผลถลอกจากการเกา หรือโดนสิ่งของครูด บาด 

                     2. ซิฟิลิส เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum มีระยะฟักตัวของโรคได้ตั้งแต่ 10-90 วัน โดยระยะแรกจะมีตุ่มเล็ก ๆ เกิดขึ้นตรงบริเวณที่เชื้อเข้า เช่น อวัยวะเพศชาย อัณฑะ ทวารหนัก ริมฝีปาก ลิ้น ต่อมทอนซิล  หรือขาหนีบ ก็ได้ จากนั้นตุ่มจะกลายเป็นแผล และจะเริ่มขยายออกมีขนาดใหญ่ขึ้น กลายเป็นแผลกว้าง ขอบแผลเรียบยกนูนและแข็ง พื้นแผลมีสีแดงและดูสะอาด แผลจะไม่เจ็บไม่คัน เรียกว่าแผลริมแข็ง แต่ส่วนใหญ่มักจะมีเพียงแผลเดียว หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ จะมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตทั้ง 2 ข้าง กดไม่เจ็บ 

                       3. แผลริมอ่อน หรือซิฟิลิสเทียม เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Haemophilus ducreyi มีระยะฟักตัว 3-10 วัน อาการคือจะพบแผลตามอวัยวะเพศ ริมฝีปากลิ้น หรือทวารหนักก็ได้ เริ่มจากแผลเล็กๆ ค่อยๆ ขยายรวมกันเป็นแผลใหญ่ ลักษณะของแผลจะดูแฉะไม่สะอาด มีเนื้อเยื่อเละ ๆ ที่ก้นแผล ส่วนที่ขอบแผลจะนูน ไม่แข็ง และไม่เรียบ และรู้สึกเจ็บ จึงเรียกว่า แผลริมอ่อน ต่อมาต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบจะบวมโต และเจ็บ                        

     

                     4. ฝีมะม่วง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia Trachomatis มีระยะฟักตัว 3-30 วัน โดยมักเกิดแผลที่อวัยวะเพศในช่วง 10 วันหลังรับเชื้อ เริ่มแรกจะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆหรือเป็นแผลตื้น ๆไม่มีอาการเจ็บปวดและหายไปเองภายใน 2-3 วัน ต่อมาต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบจะบวมโตติดกันและกลายเป็นก้อนฝีขนาดใหญ่ ซึ่งจะเจ็บปวดมาก บางรายอาจมีไข้ อ่อนเพลีย เกิดผื่นขึ้นตามตัว ปวดตามข้อ ตาอักเสบ เป็นต้น

     

                     

                    แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูลักษณะของแผลร่วมกับตรวจร่างกายอื่นๆ เพิ่มเติม และอาจต้องตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เพาะหาเชื้อ เพื่อวินิจฉัยว่าเกิดจากโรคใดค่ะ เนื่องจากการรักษในแต่ละโรคจะใช้ยาไม่เหมือนกันค่ะ ไม่แนะนำให้ซื้อยาทานเอง เพราะการทานยาที่ไม่ตรงกับโรค นอกจากจะไม่หายแล้ว อาจได้รับผลข้างเคียงจากยาแทน และโรคบางอย่างแม้อาการที่เป็นแผลจะหายไปได้เอง แต่ในระยะต่อมาจะกลับมาและกลายเป็นโรคในระยะเรื้อรังที่รักษาได้ยากขึ้นต่อไป เช่น หากเป็นซิฟิลิส แม้ว่าแผลที่อวัยวะเพศจะหายไปได้เอง แต่เชื้อย่อมยังคงอยู่ในร่างกาย และสามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นต่อไปได้ และต่อมาก็จะเข้าสู่การเป็นซิฟิลิสระยะที่ 2 และ 3 ต่อไป ซึ่งก็จะมีอาการต่างๆ ปรากฎมากมาย โอกาสหายก็จะน้อย และมีโอกาสเสียชีวิตได้ในที่สุด

      

                   หากพบว่าแฟนเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ที่กล่าวไป ทางฝ่ายผู้หญิงควรตรวจหาด้วยเช่นกันค่ะ