ถามแพทย์

  • แน่นหน้าอกทั้งวันตั้งแต่เช้า

  •  dokmairairom
    สมาชิก
    คือขออนุญาตสอบถามครับ คือว่าผมแน่นหน้าอกมาตั้งแต่เช้าอะครับต้องทำยังไงถึงจะหายอะครับเพราะว่าไม่แน่ใจว่าผลข้าวเคียงของวัคซีนหรือมาจากสาเหตุอื่นอะครับแล้วมีสิธีแก้มั้ยครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ dokmairairom,

                       หากเพิ่งไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์มาไม่นาน  คือภายในช่วง 1 สัปดาห์ แล้วเกิดอาการแน่นหน้าอก อาจเกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีนที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ค่ะ ดังนั้น หากอาการไม่หายไป เป็นมากขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ อีก เช่น ใจสั่น อ่อนเพลียหมดแรง เจ็บหน้าอก  เหนื่อยง่าย หรือมีเป็นลมไป ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ ในเบื้องต้น ควรงดการทำงานหนักต่างๆ งดการออกกำลังกายและเล่นกีฬาต่างๆ ไปก่อนค่ะ 

                        แต่หากได้ฉีดวัคซีนไปนานแล้ว ก็ไม่น่าเกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีน แต่อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น 

                       -โรคกรดไหลย้อน กระเพาะอาหารอักเสบ  ซึ่งจะทำให้มีอาการแสบร้อนกลางอกหรือแน่นหน้าอกร่วม หรือมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                  - กล้ามเนื้อหน้าอกอักเสบ จากการบาดเจ็บ เช่น การใช้งานมากไป ยกของหนัก การเล่นกีฬา ออกกำลังกายมากไปหรือผิดท่า มักจะมีจุดกดเจ็บที่ชัดเจน และจะเจ็บตามท่าทาง หรือเมื่อไอ จาม 

                  - โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ จะรู้สึกแน่นหน้าอกบริเวณตรงกลางหรือด้านซ้ายลามไปจนถึงช่วงแขน คอ กราม แต่อาการปวดจะเกิดขึ้นเมื่อออกแรงทำงาน โดยจะทำให้เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอกมาก จนต้องหยุดการทำกิจกรรมที่ทำอยู่ และเมื่อหยุดพัก ก็จะดีขึ้น ดีขึ้นเมื่อพัก 

                    ดังนั้น หากฉีดวัคซีนไปนานแล้ว ในเบื้องต้น แนะนำให้ดูแลแบบโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนไปก่อน ได้แก่ การเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด ไม่ทานอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ควรเคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารเยอะจนอิ่มเกินไป ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ รวมถึงชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ และไม่ควรทานอาหารแล้วนอนทันที ควรเว้นไปอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ เป็นต้น  

                      แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ก็แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ