ถามแพทย์

  • สอบถามแนวทางการรักษาไวรัสตับอักเสบ บี ของสามีที่ตรวจพบว่ามีเชื้อในร่างกายแต่ค่าการทำงานของตับยังเป็นปกติ

  •  Kim Chantima
    สมาชิก
    สามีอายุ41 ไปตรวจสุขภาพประจำปีเมื่อวันศุกที่ผ่านมาแล้วได้ผล HBs Ag positive ค่า 2149 ค่า SGOT 22 SGPT 28 เลยไปพบหมอที่รพเมื่อวาน หมอบอกคนไข้ไม่มีแสดงอาการใดๆ ค่าการทำงานตับยังปกติ เลยไม่ต้องกินยา ได้มีทำ U/S พบซีดส์2เม็ดเล็กๆ แต่ไม่พบมะเร็งตับ โดยรวมถือว่าปกติดี และนัดมาเช็คค่า SGOT อีกที3-4เดือนจึงได้ถามหมอว่าทีวิธีทำให้ค่า HBs Ag ลดลงมั้ย แต่หมอบอกว่าไม่มี คำถาม 1 นี่เป็นแนวทางการรักษาที่ปกติมั้ยคะ คือถ้าไม่มีอาการและตับปกติก็คือไม่ต้องจ่ายยาและนัดตรวจตับทุก3-4เดือน 2 ไม่มีวิธีทำให้ค่า HBs Ag ลดลงได้จริงๆหรอคะ 3 ถ้าไม่ต้องกินยาอะไรนานวันเข้าค่าตัวนี้มันจะเพิ่มขึ้นหรือเปล่าคะมันจะส่งผลให้ตับวายตับแข็งได้ไหมคะ 4 เมื่อถามว่าแบบนี้คือเฉียบพลันหรือเรื้อรัง หมอบอกไม่ใช่ทั้ง2อย่าง สามีเป็นพาหะ ตอนแรกก็งงค่ะ นึกว่าพาหะแปลว่ายังไม่เป็น แต่ถามอีกทีหมอบอกว่านี่แหละคือเป็นแล้ว คุณหมอในพบแพทย์คิดเห็นแบบเดียวกันมั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
    Kim Chantima  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Kim Chantima

    โรคไวรัสตับอักเสบ บีเป็นโรคที่มีการติดเชื้อของตับ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี การติดเชื้อนี้อาจนำไปสู่โรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อตับและชีวิตได้ เช่น ตับวาย ตับแข็ง และมะเร็งตับ โดยการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางสารคัดหลั่งที่มาจากร่างกาย 

    การรักษาโรคสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ ระยะเฉียบพลันและระยะเรื้อรัง ระยะเฉียบพลัน ซึ่งสามารถหายได้เอง แพทย์จะแนะนำการปฏิบัติตัว เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีโภชนาการสูง และดื่มน้ำในปริมาณมาก ๆ เพราะร่างกายกำลังต่อสู้ในการกำจัดเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่ จากที่กล่าวมา ถ้าไม่มีอาการอะไรแล้วก็ไม่น่าใช่ภาวะเฉียบพลัน

    หากได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ บี ระยะเรื้อรัง ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาเพื่อลดความเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคตับที่รุนแรง และป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น โดยการรักษานั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ป่วย อาจมีการใช้การรักษาด้วยยาต้านเชื้อไวรัส ยาอินเตอร์เฟอรอน หรือการผ่าตัดเปลี่ยนตับ เป็นต้น

    จากที่กล่าวมาผลเลือดค่า HBsAg หรือค่าที่บ่งบอกถึงเชื้ออย่างเดียว บังบอกไม่ได้ว่าผู้ป่วยอยู่ในระยะใด กล่าวคืออาจจะต้องดูค่าเลือดอื่นประกอบจีงจะบอกได้ แต่ค่าการทำงานของตับยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้แพทย์ยังไม่ได้เริ่มยาอะไร แต่ใช้วิธีการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดว่าจะมีค่าตับเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า แนะนำการทำตามคำแนะนำของแพทย์ และหากมีคำถามใดๆสามารถสอบถามแพทย์ที่ดูแลได้โดยตรง ส่วนใหญ่คำว่าพาหะคือผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแต่สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ผลการตรวจเลือดพบค่าการทำงานของตับอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งฟังเบื้องต้นแล้วก็ยังเป็นไปได้เช่นกัน