ถามแพทย์

  • เหงือกอักเสบ ปล่อยทิ้งไว้ แล้วเป็นหนอง แตกออกแล้วเป็นใหม่อีก เหงือกเป็นแผล ปล่อยไว้จะเป็นอะไรไหม

  •  nini56
    สมาชิก
    สอบถามหน่อยคะ ช่วงก่อนเหงือกอักเสบแต่ไม่เจ็บเลยปล่อยทิ้งไว้แล้วตอนนี้มันอมหนอง หลายวันแล้วคะ พอหนองแตกกลับกลับมาอมหนองอีก หรือกดออกสักวันสองวันก็กลับมาอมหนองใหม่แต่ไม่เจ็บคะใช้เคี้ยวอะไรได้ปกติ มาวันนี้อมหนองอีกแล้วกินอาหารหนองแตกไปตอนไหนไม่รู้แล้วสังเกตว่ามีหนังเหงือกออกมาด้วย ตอนนี้ เหงือกเป็นแผลค่ะแต่ไม่มีเวลาไปหาหมอเลยคะ ปล่อยทิ้งไว้นานจะเป็นอะไรมากไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ nini56,

                  การมีหนองบริเวณเหงือก แสดงว่ามีอาการของโรคเหงือกอักเสบ (gingivitis) สาเหตุอาจเกิดจาก

                 - เศษอาหารที่ติดไปยังซอกเหงือก และกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบ ปวด บวม แดง หากเป็นมาก ก็อาจกลายเป็นฝีหนองได้ 

                  - เกิดจากมีการสะสมของหินปูนที่ฟัน ก็ทำให้เหงือกอักเสบตามมาได้เช่นกัน  หรือเกิดจากการมีฟันผุ แล้วลามลึกไปถึงรากฟัน ก็ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกตามมา โดยมีเหงือกบวมแดง เจ็บ และอาจมีหนองได้

                     และปัจจัยที่ทำให้เกิดหินปูนและฟันผุ โดยส่วนใหญ่เกิดจากทำความสะอาดในช่องปากที่ไม่ดีพอ หรือการกินอาหารบางอย่างก็อาจทำให้เศษอาหารติดตามซอกหลืบได้ง่าย เช่น เนื้อสัตว์ที่แข็งเหนียว สำหรับอาหารรสจัด ก็อาจเป็นสาเหตุได้ เพราะอาหารรสจัดมักมีน้ำตาลผสมอยู่เยอะ จึงทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี

                    ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบได้ เช่น มีภาวะน้ำลายแห้งจากโรคต่างๆ เช่น โรคของต่อมน้ำลาย มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศ เช่น ช่วงตั้งครรภ์ในผู้หญิง มีการติดเชื้อราในช่องปาก ใส่ฟันปลอม มีภาวะภูมิต้านทานโรคต่ำ ผู้สูงอายุ ขาดสารอาหาร เป็นต้น

                    หากเป็นโรคเหงือกอักเสบแล้วไม่รักษา หรือรักษาไม่ถูกต้อง ก็จะกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบ (periodontitis) ตามมาได้ โดยในโรคปริทันต์อักเสบ เหงือกในชั้นที่ยึดติดกับรากฟัน เยื่อปริทันต์ รากฟัน กระดูกเบ้าฟันจะเกิดการอักเสบเป็นหนอง ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียฟันไปได้ในที่สุดค่ะ นอกจากนี้ เชื้อโรคอาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งหากระบบภูมิต้านทานไม่ดี ก็อาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดตามมาได้ค่ะ 

                    ดังนั้น ก็ควรพยายามหาเวลาไปทันตแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาค่ะ หากปล่อยไว้ ย่อมยากต่อการรักษา และมีโอกาสสูญเสียฟันได้ดังกล่าวไปค่ะ ในเบื้องต้นควรทำความสะอาดทุกส่วนในช่องปากให้เพียงพอ โดยการแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหาร แปรงอย่างน้อย 3-5 นาที รวมทั้งแปรงลิ้นด้วย และควรใช้ไหมขัดอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง อาจช้น้ำยาบ้วนปากร่วมด้วย ก็จะช่วยลดเศษคราบต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น งดการทานอาหารรสจัด อาหารที่หวานจัด น้ำหวานต่างๆ รวมถึงอาหารที่เหนียวและเคี้ยวยากค่ะ