ถามแพทย์

  • คุณแม่เป็นประจำเดือนเยอะมากและนานกว่า 10 วัน ได้ยามาทาน ผ่านไป 3-4 วันเลือดก็ออกอีก จะเป็นอันตรายไหม

  •  This's Amp
    สมาชิก
    คือแม่หนูเป็นปจด.แต่ว่าเลือดออกเยอะมากและก็เป็นเกือบ 10 วัน จนเกิดอาการเลือดจางต้องไปหาหมอ หมอได้ตรวจภายในและให้เลือดค่ะ ซึ่งหมอแจ้งว่าต้องขูดมดลูก แต่ปัญหาคือว่าหมอไม่สามารถขูดมดลูกได้เพราะเครื่องมือเขาไม่ถึงเหมือนติดอะไรบางอย่าง(หมอแจ้งมาแบบนี้) และหมอก็ยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าแม่เป็นอะไร จากนั้นแม่ก้กลับมาพักที่บ้านโดยหมอจ่ายยาพวกปีองกันเลือดออก ปรับฮอโมนแก้อักเสบ บำรุงเลือด แต่พอผ่านไป3-4 วันเลือดก็ออกอีก แต่ก้ไปหาหมออีก หมอก้ให้ยามาเหมือนเดิม หนูเลยอยากรู้ว่าเคสแบบนี้อันตรายมากน้อยแค่ไหนและมีวิธีไหนสามารถขูดมดลูกได้หรือเปล่า ปล.หมอที่แม่ไปรักษาไม่ค่อบบอกรายละเอียดมากนัก เลยไม่ค่อยรู้ค่ะ😊
    This's Amp  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ This's Amp

    การมีเลือดออกมากทางช่องคลอดอาจมีสาเหตุจาก

    -เนื้องอกมดลูก

    -ผนังโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ เช่นจากมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

    -เนื้องอกหรือมะเร็งที่ปากมดลูก

    -การติดเชื้อที่มดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด 

    -กินยาบางอย่างที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง เช่น กวาวเครือ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้

    -ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เช่น แท้ง ท้องนอกมดลูก

    -ความผิดปกติของรังไข่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศผิดปกติ จึงมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน

    ในกรณีนี้มารดาน่าจะเป็นหญิงสูงอายุ ซึ่งสาเหตุอาจจะคิดถึงกลุ่มเนื้องอกหรือมะเร็งได้มากขึ้น

    จึงแนะนำว่าถ้าหลังกินยาปรับฮอร์โมนมาแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลย ควรพากลับไปพบแพทย์เช่นสูตินรีแพทย์ และเล่าอาการให้ฟังร่วมกับแจ้งว่าได้ยามาหลายครั้งแล้วยังไม่ดี แพทย์อาจต้องตรวจอัลตราซาวน์หน้าท้องและตรวจภายในดูอีกครั้งว่าจะสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ในกรณีนี้ถ้าเลือดออกมากไม่มีสาเหตุ อาจจะต้องขูดมดลูกเพื่อหยุดเลือดและเพื่อให้ได้ชิ้นเนื้อเอาไปตรวจดูว่าเป็นอะไรกันแน่ะค่ะ