ถามแพทย์

  • เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ผ่านมา 2-3 วันแล้วยังไม่หยุด เกิดจากอะไร

  •  Mittapap Srisai
    สมาชิก
    ขออนุญาตเข้ามาสอบถามข้อสงสัยนะครับ - หลังจากที่มีเพศสัมพันธุ์กับแฟน แฟนมีอาการเลือดออกจากช่องคลอด ผ่านมา 2-3 วัน ก็ยังมีอาการเลือดออกอยู่ ซึ่งได้ลองคุยกับแฟนแล้ว แฟนได้ตอบว่า ไม่ใช่เลือดจากประจำเดือน เพราะไม่มีอาการปวดท้องหรือรู้สึกว่าเป็นประจำเดือนมา และช่วงปัสวะก็ไม่มีเจ็บหรือแสบแต่อย่างไร หรือจะเกี่ยวกับเนื้อเยื้อบางที่ที่ฉีกขาด? - ขอบคุณครับ
    Mittapap Srisai  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Mittapap Srisai

    การมีเลือดออกจากช่องคลอดหลังการมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากการฉีกขาดของเยื่อบุอวัยวะเพศหญิงได้ มักเลือดออกซึมๆ สัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ หากหยุดการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ไม่ควรออกต่อเนื่อง สาเหตุอื่นๆของเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดเช่นผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิด ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เลือดตามหลังการปฏิสนธิ การติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือมดลูก การมีเนื้องอกที่มดลูกหรือปากมดลูก อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานอักเสบ เป็นต้น

    โดยหากเกิดหลังการมีเพศสัมพันธ์ทันที จะนึกถึงเรื่องภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้น้อย แนะนำการไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันและตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด หากยังมีเลือดออกทางช่องคลอดอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นให้งดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้างช่องคลอด ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนมาใช้เอง