ถามแพทย์

  • เลือดออกหลังมีประจำเดือนไปแล้ว เกิดจากอะไร ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์

  •  P'CH
    สมาชิก
    มีประจำเดือนล่าสุดวันที่19สิงหาค่ะ และหมดไปวันที่22สิงหา จนเมื่อวาน(วันที่31)มีเลือดสีน้ำตาลออกมาพร้อมกับตกขาวเล็กน้อย(ไม่มีกลิ่น) วันนี้(วันที่1) ตอนกลางคืนมีเลือดสีเเดงคล้ายประจำเดือนออกมาค่ะ ปกติรอบเดือนคือ28-29วัน แต่นี้ห่างกันเเค่14วัน จะเป็นอะไรมั้ยคะ *ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน อายุน้อยกว่า18ค่ะ ก่อนหน้านี้1-2วัน มีอาการปวดหัวเลยกินยาพาราไป 2-3เม็ดอาการแบบนี้ผิดปกติมั้ยคะ กังวลมากเลย
    P'CH  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ P'CH

    การมีเลือดออกทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน หรือมาเร็วกว่า 22 วันนับจากครั้งก่อน อาจเกิดจาก

    -เนื้องอกมดลูก

    -ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นหนองในแท้ หนองในเทียม

    -เนื้องอกหรือมะเร็งที่ปากมดลูก

    -การติดเชื้อที่มดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด 

    -ความผิดปกติของรังไข่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศผิดปกติ หรือมีถุงน้ำรังไข่ จึงมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน

    โดยการให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอน ควรพบสูตินรีแพทย์ แพทย์อาจซักประวัติเพิ่มเติม ตรวจภายใน ตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์และอัลตราซาวน์หน้าท้องดูว่ามีมดลูกหรือรังไข่ผิดปกติหรือไม่ค่ะ 

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนมากินเอง ไม่สวนล้างช่องคลอด และหากมีเลือดออกมากขึ้นร่วมกับมีก้อนเนื้อปนออกมา ปวดหน่วงท้องน้อย ควรรีบไปพบแพทย์